เครื่องปรับอากาศ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าแอร์ (Air Conditioner) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีแทบทุกบ้านในไทย เพราะอากาศแสนจะร้อนตลอดปี จนทำให้ผู้คนอยู่แทบไม่ไหว แต่เชื่อหรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักกริลแอร์ (Grill Air) หรือบางคนอาจจะเห็นหน้า และรู้จักกันมาบ้าง แต่ยังไม่ทราบว่าคืออะไรสรุป แล้วต้องติดมั้ย เพราะในประเทศไทยไม่นิยมติดกันซักเท่าไหร่ แต่เพื่อให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถนอมให้อยู่คู่ใจกับพวกเราไปอีกนาน เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับหน้ากากแอร์ หรือกริลแอร์กัน
กริลแอร์ (Grill Air) คืออะไร
กริลแอร์ (Grill Air) คือหน้ากากแอร์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส่วนเครื่องยนต์โดยตรง แต่ติดตั้งเพื่อให้เกิดการควบคุมทิศทางลม ให้เกิดการหมุนเวียนอุณหภูมิ และสภาพอากาศภายในบริเวณที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี โดยอาจมีหน้าตาเป็นวงกลม หรือสี่เหลี่ยมก็ได้ มักจะทำมาจากอลูมิเนียมเคลือบสีซะส่วนใหญ่ เนื่องจากต้องใช้งานสัมผัสความร้อน หรือความเย็นสูงตลอดเวลา ซึ่งหน้ากากแอร์ หรือกริลแอร์ที่ว่านี้ อาจมีได้หลากหลายประเภทตอบโจทย์หลายการใช้งานตั้งแต่
1. Return Air Grille สำหรับรีเทิร์นแอร์
กริลแอร์ที่ไว้ติดตั้งในแต่ละห้อง เพื่อดูดเอาลมร้อน หรืออากาศที่ไม่ดี หมุนวนออกจากห้อง โดยทางเดินลมจะมีการเชื่อมต่อให้ไหลเวียน ไปหาเครื่องปรับอากาศหน้าตาเหมือนบานพับที่ขยับไม่ได้ มักติดตั้งไว้บริเวณฝ้าด้านบนห้อง
2. Ceiling Diffuser Air Grille สำหรับช่วยจ่ายลม
กริลแอร์ประเภทนี้ จะมีลักษณะหน้าตาเป็นวงกลมสมชื่อ แต่จะไม่ได้มีไว้ดูดอากาศออก มีไว้สำหรับจ่ายอากาศที่ดี มาเพื่อปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง อาจจะมีหน้าตาเป็นแบบวงกลม หรือสี่เหลี่ยมก็ได้ มักติดไว้บริเวณด้านบนกลางห้อง เพื่อกระจายลมให้ทั่วถึง
3. Linear Slot Diffuser Air Grille สำหรับจ่ายลม
วิธีการทำงานจะคล้ายกับกริลแอร์ สำหรับจ่ายลมรูปแบบอื่น เพียงแค่ตัวนี้จะมีรูปแบบสี่เหลี่ยมนอนยาว เน้นเรื่องการออกแบบให้ดูสวยงาม ไม่รก หรือโผล่ออกมาให้ดูเด่น มักติดตามบริเวณด้านล่าง แต่ด้วยหน้าตา และจุดที่นิยมติดตั้ง ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร ถึงจะได้รับความเย็นหลังเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือต้องเร่งเครื่องให้มากขึ้น
4. Fresh air grille สำหรับระบายลมร้อน
เชื่อว่าหลายคนจะไม่ค่อยเห็นคนนิยมใช้งานประเภทนี้ กริลแอร์ประเภทนี้ จะติดบริเวณหน้าคอมเพรเซอร์ พัดลมระบายลมร้อนออกนอกอาคาร มีหน้าตาเป็นสี่เหลี่ยม และบานพับปรับทิศทางได้ เพื่อควบคุมทิศทางลมให้ออกนอกอาคาร ไม่ให้ลมร้อนเข้ามาสัมผัสกับภายในอาคาร จนอาจเป็นการเพิ่มอุณหภูมิ ให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น
5. Vent Louver สำหรับระบายอากาศ
ช่องระบายอากาศที่มักจะติดตั้งตามห้องครัวห้องน้ำอื่นๆ บางทีก็เป็นสี่เหลี่ยมมีบานพับอาจต่อกับท่อลมระบายอากาศ หรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าใครเคยดูหนังต่างประเทศ หรือสถานที่ที่พึ่งก่อสร้างใหม่ น่าจะเคยเห็นหน้าตาคล้ายถ้วยอลูมิเนียมมีบานพับด้านใน สิ่งนั้นก็ถือเป็น Vent Louver ได้เช่นกัน แต่จะไม่นิยมนำไปติดเป็นกริลแอร์
นอกจากนี้ก็ยังมีกริลแอร์ หรือหน้ากากแอร์ประเภทอื่นๆ ซึ่งรูปแบบหน้าตาอาจไม่แตกต่างกันมากนัก แต่จะต่างกันตรงชื่อเรียก และการใช้งาน ซึ่งทุกคนควรทำความเข้าใจชื่อ และการทำงาน เพื่ออธิบายความต้องการให้ร้านที่จัดจำหน่ายหน้ากากแอร์ และช่างที่จะเข้ามาทำการติดตั้งเข้าใจได้ตรงกัน และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
กลับสู่สารบัญความสำคัญ และข้อดีของกริลแอร์
บางคนอาจจะกำลังสงสัยว่ากริลแอร์สำคัญแค่ไหน จำเป็นต้องติดตั้ง หรือไม่ ถ้าจะติดแค่ระบบเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่ติดตั้งหน้ากากแอร์ได้รึเปล่า เดี๋ยวเราจะมาไขคำตอบไปพร้อมกัน
ลองนึกภาพง่ายๆ ดูว่า ระหว่างท่อที่ปล่อยลมออกมา หรือดูดลมกลับเข้าไปแบบตรงๆ เป็นกระจุกเดียว กับกริลแอร์ที่ผ่านการออกแบบมาให้มีช่องกระจายลมตามทิศทาง ที่เหมาะสม แบบไหนจะดีกว่ากัน แน่นอนว่าแบบท่อเปล่าๆ ไม่เพียงแค่ทำให้การรับ หรือปล่อยลมมีความแรงสูง จนอาจทำให้ผู้อยู่อาศัย หรือเข้าใช้งานภายในบริเวณนั้น ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีแล้ว
ยังอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องปรับอากาศ และผู้เข้าใช้งานเช่นระบบทางเดินหายใจฯลฯได้อีกด้วย ในขณะที่ถ้ามีการใช้กริลแอร์ได้อย่างเหมาะสมติดตั้ง ในบริเวณที่ควร ก็จะทำให้ได้รับลมเย็นแบบละมุน เพิ่มประสบการณ์ดีๆ ให้กับผู้ใช้งานไปอีก ซึ่งอันนี้เป็นเพียงตัวอย่าง ที่เราอยากให้คุณได้ลองนึกภาพตามความจริง แล้วความสำคัญของกริลแอร์ยังมีอีกมากมายได้แก่
1. การรับ และปล่อยลมอย่างเหมาะสม
อย่างที่เราได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเจนกริลแอร์จะช่วยให้มีการรับ และปล่อมลมได้อย่างเหมาะสม เกิดการกระจาย หรือดูดลมได้อย่างทั่วถึง ในขณะที่หากไม่มีกริลลมดีๆ ในบางมุมของบริเวณที่ติดตั้ง อาจไม่ได้รับการถ่ายเทอากาศ ให้มีอุณหภูมิที่เย็นสบายได้
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
การใช้กริลแอร์ แล้วต่อการเดินท่อไปหาเครื่องปรับอากาศ ย่อมประหยัดมากกว่าการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแต่ละตัวในแต่ละพื้นที่ และถ้ามีการวางท่อ และหน้ากากแอร์ที่ดี จะให้ความเย็นที่ไม่ต่างกัน แถมกระจ่ายในแต่ละจุดได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแล และค่าพลังงานไฟฟ้า จากการลดประมาณเครื่องปรับอากาศลงด้วย
3. ถนอมเครื่องปรับอากาศ
กริลแอร์ช่วยให้สามารถถ่ายเทอากาศได้ทุกพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องเร่งการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ถนอมการใช้งาน จะเห็นว่า การลงทุนในองค์กร หรือสถานที่ขนาดใหญ่ ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศบ่อย เท่าเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน แม้ว่าจะมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เครื่องเหล่านั้นถูกออกแบบมาให้ทนทาน และมีตัวช่วยทำงานอย่างการวางท่อ และติดตั้งหน้ากากแอร์ อีกทั้งยังมีกริลแอร์แบบติดตั้งหน้าคอมเพรเซอร์ควบคุมทิศทาง ไม่ให้เข้ามาภายในอาคาร หรือถูกลมตีความร้อนกลับเข้าคอมเพรเซอร์ด้วย ยืดอายุการทำงานของเครื่องได้อีก
4. เหมาะกับพื้นที่จำนวนจำกัด
สำหรับองค์กร หรือสถานที่ให้บริการที่ปกติมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด อาจเลือกใช้แบบเครื่องปรับอากาศผ่านกริลแอร์ เพื่อลดการใช้พื้นที่มากเกินความจำเป็น เพราะการติดตั้งทั้งตัวเครื่องภายในห้อง อาจลดพื้นที่ภายในห้องให้ดูเล็กลงได้ หรือจะติดตั้งเฉพาะกริลแอร์ เพื่อดูดอากาศเสียออกจากห้อง แยกจากเครื่องปรับอากาศเพิ่มความเย็น ที่อาจติดตั้งในแต่ละห้องก็ได้
5. ป้องกันสัตว์หลุดรอดเข้าไป
ถึงแม้ว่าคุณจะดูแลเครื่องปรับอากาศ และท่อเป็นอย่างดี ก็ต้องยอมรับว่ามีโอกาสที่สิ่งมีชีวิตอย่าง แมลงสาบ นก หนู ฯลฯ หลุดรอดเข้าไปได้เสมอ อย่างน้อยการติดตั้งกริลแอร์ และตัวกรองทับอีกชั้น ก็จะช่วยป้องกันการหลุดรอด หรือไปโผล่หน้าตามท่อได้พอสมควร
6. ดูแลง่ายติดตั้งง่าย
เรื่องของการดูแลกริลแอร์แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย แค่เช็ดทำความสะอาดเล็กน้อยก็พอ ส่วนใหญ่จะเน้นดูแลในส่วนอื่นซะมากกว่า แถมการติดตั้งก็ไม่มีอะไรมาก อาจติดน็อตด้วยสว่าน 4 มุม, สายรัดเคเบิลไทด์หรืออื่นๆ ตามแต่ละประเภท หรือแต่ละการออกแบบของแบรนด์ทางร้าน ขอรับประกันว่าทุกชิ้นภายในร้านของเรา ดูแลง่ายติดตั้งง่าย และใช้ได้นานแน่นนอน
บทความเพิ่มเติม
ปัจจัยในการเลือกกริลแอร์มาใช้ให้ตอบโจทย์ตัวเอง
1. วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
ถึงแม้ว่าหน้าตาของกริลแอร์ หรือหน้ากากถ่ายเทอากาศ จะเหมือนกันเป๊ะ แต่ก็อย่าลืมกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ว่าจะเอาใช้เพื่ออะไร ต่อท่อไปยังเครื่องปรับอากาศ เพื่อดูดอากาศเสียกลับปรับให้อากาศดีขึ้น หรือแค่อยากถ่ายอากาศเสียออกด้านนอกเฉยๆ เพราะบางครั้งต้องคำนวณ หรือเลือกให้เหมาะกับการติดตั้งอุปกรณ์อื่นด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และงบไม่บานปลาย
2. จำนวนการถ่ายเทภายในพื้นที่นั้น
เรื่องปกติของการต้องคำนวณขนาดของอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน แม้แต่การซื้อเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ที่ติดตั้งตามบ้าน ก็ยังต้องคำนวณปริมาณพื้นที่ภายในห้อง เพื่อเลือกจำนวน BTU ให้เหมาะสมกับการปรับอากาศให้ไม่เปลืองแรง หรือเร่งการทำงานจนเครื่องมีปัญหา เพราะงั้นการสังเกตพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งกริลแอร์ ก็สำคัญเช่นกัน เพื่อเอามาคำนวณว่าควรใช้ขนาดเท่าไหร่ หน้าตาแบบไหน หรือติดไว้กี่ตัว ถึงจะกระจายการถ่ายเทอากาศภายในพื้นที่นั้นได้ดี
3. จุดที่จะติดตั้งอยู่ตรงไหน
ตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม สามารถช่วยลดขนาดของกริลแอร์ได้ รวมถึงควรดูด้วยว่ามีพื้นที่ที่จะติดตั้งเหลือมากน้อยแค่ไหน ควรติดกริลแอร์ประเภทไหน ถึงจะออกมาดูดีได้ แม้จะไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม เช่นตามปกติแล้ว อากาศจะไหลจากแรงดันสูงแล้วไปหาแรงดันต่ำ พูดง่ายๆ ว่าอากาศจะไหลขึ้นสู่ด้านบน เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรติดตั้งกริลแอร์ไว้ที่ฝ้าบนห้อง จากนั้นก็ดูตำแหน่งนั้นว่า มีพื้นที่พอให้ติดแค่ไหน ควรเลือกหน้าตายังไง หรือถ้าติดเพดานด้านบนแล้ว ไม่น่าจะเหมาะ อาจหากริลแอร์แบบอื่นมาใช้แทนฯลฯ
4. วัสดุ
คงไม่มีคนไหนที่อยากลงทุนไปแล้วใช้ได้มีกี่ครั้ง ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะงั้นการเลือกวัสดุที่นำมาเป็นกริลแอร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่จะเน้นหน้ากากแอร์ไปที่โลหะเคลือบสี เพราะสวยแข็งแรง คงทน ไม่ต้องดูแลมาก ก็สามารถคงสภาพดีไว้ได้นาน ในขณะที่บางประเภท จะใช้พลาสติก ซึ่งมีโอกาสเหลือง หรือเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่า แต่อาจเหมาะกับพื้นที่ที่มีมวลความชื้นหนาแน่น ต้องสัมผัสกับน้ำตลอดเวลา อย่างห้องน้ำ อาจจะเหมาะกับหน้ากากแบบนั้นมากกว่า
5. ดีไซน์
ปัจจุบันกริลแอร์มีดีไซน์หน้าตาเปลี่ยนไปมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องของหน้าตาสไตล์ภายในห้อง หรือพื้นที่นั้นมากขึ้น แต่ในส่วนนี้จะหยิบไปพิจารณา หรือไม่ก็ได้ หลักๆ อยากให้คุณดูว่า การดีไซน์ตอบโจทย์การใช้งาน หรือไม่ ก่อนจะพิจารณาถึงเรื่องความสวยงาม
บทความเพิ่มเติม
ตำแหน่งติดตั้งกริลแอร์
ปกติแล้วกริลแอร์ หรือหน้ากากแอร์ จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณปลายทางทำ ให้ต้องพิจารณาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะความเหมาะสมตามหลักการทำงานความสวยงาม และอื่นๆ ดังนั้น ตำแหน่งติดตั้ง จึงเป็นอีกสิ่งที่สำคัญ นอกเหนือจากการเลือกกริลเลอร์ โดยอาจแบ่งตำแหน่งติดตั้งได้ประมาณ 3 จุดคร่าวๆ ได้แก่
1. ติดบนฝ้าเพดาน
ตำแหน่งนี้ ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง เนื่องจากติดตั้งดูแล หรือถอดออกได้ง่ายค่าใช้จ่ายจะไม่สูง และขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าติดส่วนอื่น รวมถึงมีกริลแอร์ที่รองรับการติดบนฝ้าเพดานหลากหลายประเภทเช่น Celling Diffuser กระจายอากาศดีออกจากเครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถมีอิสระในการเลือกรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์การออกแบบ และตกแต่งภายใน แบบที่ใช่กับอาคารของคุณ บางครั้งอาจจะมีการติดตั้งพัดลมระจายลมในแนวราบ หรือแนวทำมุมกับฝ้า เพื่อให้การกระจาย และการถ่ายเทอากาศสามารถทำได้ดีมากขึ้น
2. ติดข้างผนัง
นอกจากการติดบนฝ้าเพดานแล้ว หลายคนน่าจะคุ้นชินกับอีกรูปแบบไม่แพ้กัน อย่างกริลแอร์ติดข้างผนัง โดยวิธีนี้จะต้องเจาะกำแพงเ พื่อติดตั้งตัวกริล และวางระบบการเดินท่อไปยังเครื่องปรับอากาศ โดยส่วนใหญ่จะติดให้ต่ำกว่าฝ้าไม่เกิน 1 เมตรยกเว้นกริลไว้ใช้สำหรับระบายอากาศเสียออก (หรือแล้วแต่เทคนิค และการออกแบบภายใน ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษากับวิศวกรเพิ่มเติม)
ทำให้เกิดข้อจำกัดบางอย่างเช่น ระยะการเดินท่อ ไม่สามารถวางไปถึงจุดที่เหมาะสมได้ หรือวางแล้วจะไม่สวยงามในพื้นที่ที่ด้านบนเปิดโล่ง ฯลฯ การติดตั้งแบบข้างผนังส่วนใหญ่ จะถูกหยิบมาใช้ เนื่องจากการติดบนฝ้าเพดาน มีข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคมากกว่า หรือในบริเวณที่มีพื้นที่กว้างมาก ระยะการพุ่งของลมก็จะดีกว่าการวางบนเพดาน ให้ลมพุ่งสู่พื้นอย่างหอประชุม ฯลฯ
3. ติดบนพื้นทางเดิน
การติดตั้งกริลแอร์รูปแบบนี้ ถือเป็นวิธีที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะติดตั้งดูแล และควบคุมยาก เลยมักจะติดกับพื้นยก หากมีปัญหา ก็สามารถยกออกมาแก้ไขได้ทันที ไม่ต้องรื้อลึกถึงโครงสร้างอาคาร และเลือกใช้ในพื้นที่ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิซะมากกว่า เช่นห้องที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอกนิกส์จำนวนมาก, ห้องที่เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ
เพื่อระบาย และควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำทั่วถึง หากเป็นพื้นที่ที่มีคนใช้งาน หรือเดินผ่าน ก็จะเลือกใช้รูปแบบกริลแอร์ และการควบคุมแรงลมให้ต่ำ เพราะถือเป็นการติดตั้งส่วนหนึ่งของเครื่องปรับอากาศ ที่ใกล้กับผู้ใช้งานเกินไป จะให้มีความแรงของลมเท่ากับการติดด้านบนฝ้า หรือติดข้างผนังไม่ได้
ตำแหน่งที่ควรติดตั้ง
นอกจากการเลือกตำแหน่งที่จะติดตั้ง ตามการใช้งานกริลแอร์ที่ได้แจ้งไปใน 3 ข้อข้างต้น ยังมีเทคนิคการเลือกตำแหน่งอีกเล็กน้อย คือหากไม่มีส่วนระบายอากาศความร้อนออก ควรนำหน้ากากแอร์ไปติดใกล้บริเวณนั้น ให้ลมได้พุ่งมาปะทะกับลมร้อน ที่พุ่งเข้ามาในบริเวณนั้น เพื่อลดความร้อนที่กลายเป็นปัจจัยหลัก ให้อุณหภูมิบริเวณนั้นสูง แต่ไม่จำเป็นต้องติดตรงที่พุ่งเข้ามาพอดี อากาศควรมีความนิ่งในระดับหนึ่ง ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าลมร้อนกระจายไปกันใหญ่ และจุดที่ติดตั้ง ควรมีโครงสร้างที่แข็งแรงมากพอ เพื่อไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือน หรือเกิดเสียงระหว่างการใช้งาน
ตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง
การติดตั้งกริลแอร์เพื่อให้เกิดการกระจายลม ที่มีประสิทธิภาพ อาจเลี่ยงการวางตำแหน่งใกล้กับกระจก เพราะลมจะปะทะกับหน้าต่าง หรือกระจก จนเกิดฝ้าได้ตลอดเวลา เป็นอุปสรรคในการใช้งานหน้าต่าง และไม่ควรวางใกล้กับผนังด้วย เพราะจะทำให้เกิดคราบ หรือพื้นผิวผนังขรุขระได้ แม้จะมองว่าความสวยงาม หรือการใช้งานหน้าต่างเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากมองว่าการตั้งในตำแหน่งนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดการกระจายลมได้ทั่วถึง และอาจต้องมานั่งซ่อมผนัง เมื่อใช้งานในระยะยาวด้วย
บทความเพิ่มเติม
วิธีการทำความสะอาดกริลแอร์
การดูแลกริลแอร์ด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการสังเกตการทำงาน ของทั้งระบบเครื่องปรับอากาศผ่านกริลแอร์ และการทำความสะอาดซะมากกว่า เราจึงขอนำวิธีทำความสะอาดง่ายๆ มาฝากกัน
1. ทำความสะอาดเป็นประจำ
การทำความสะอาดเป็นประจำ จะช่วยให้คุณลดภาระการดูแลได้เยอะมาก แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องดูแลทุกวัน แค่ต้องดูแลเป็นประจำ เช่นความสะอาดภายนอกดูแลทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน แล้วเรียกให้ช่างมาเช็คความเรียบร้อย ของระบบเครื่องปรับอากาศทั้งหมดทุก 1 ปี ฯลฯ
2. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่มีความรุนแรง
ถึงแม้ว่าวัสดุที่นำมาทำกริลแอร์ จะมีความแข็งแรงทนทานสูง อย่างโลหะเคลือบด้วยสี ป้องกันการเกิดสนิม และทนอุณหภูมิร้อน-เย็นกว่าปกติได้ แต่ก็ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาด ที่มีความเป็นกรด หรือด่างมากจนเกินไป หรืออาจมีฤทธิ์กัดกร่อนจนทำลายพื้นผิว หรือสีของหน้ากากแอร์อันนั้นได้ แนะนำว่าให้เลือกใช้น้ำยาที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับค่ากลางจะดีกว่า (หมายถึงเป็นกรด หรือด่างได้แต่ไม่ควรมากจนเกินไป) และอุณหภูมิควรอยู่ในระดับกลางๆ ไม่อุ่น หรือเย็นจนเกินไป
3. ใช้วัสดุที่มีความอ่อนนุ่มในการทำความสะอาด
อุปกรณ์ในการทำความสะอาด ที่สามารถถนอมสภาพของกริลแอร์ให้สวยได้อีกนาน ควรเลือกวัสดุที่มีความอ่อนนุ่ม อย่างผ้าไมโครไฟเบอร์ผ้าชามัวร์ หรือฟองน้ำธรรมดาก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้เลือกใช้วัสดุที่มีความแข็ง อย่างฝอยขัดหม้อ ฯลฯ
4. เช็ครอยแตก หรือตำหนิเป็นประจำ
อย่าปล่อยให้เกิดรอยแตก หรือตำหนิ เพราะรอยเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ความชื้นเขาไปสร้างสนิมภายในได้ เพราะงั้นหากถอดลงมาทำความสะอาด ก็ควรเช็ครอยแตกรอยตำหนิ แล้วแก้ไขด้วยการทาสีเคลือบทับลงไป หรือปรึกษาวิธีแก้ไข ไปยังร้านจัดจำหน่าย หรือช่างว่าสามารถแก้ไขได้ หรือไม่หรือ ควรซื้อเปลี่ยนใหม่ทันที (เพราะงั้นควรเลือกร้านที่มีความจริงใจกับลูกค้า ที่กล้าแนะนำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เห็นแค่ยอดขาย อย่างห้างหุ้นส่วนจำกัดยู.ดี. ไอเอิร์น ที่พร้อมใส่ใจในการบริการ และแนะนำด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราพร้อมดูแลเคียงข้างลูกค้าเสมอ)
สินค้า กริลแอร์ (Grill Air) พร้อมจำหน่วย สนใจกดดูรายละเอียดได้เลย
สรุปทิ้งท้าย
การทำระบบปรับอากาศ และกระจายผ่านกริลแอร์ เป็นการลงทุนวางระบบในระยะยาว เพราะงั้นผู้ลงทุนทุกท่าน ควรใส่ใจในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน และความต้องการของตัวเองมากที่สุด หากท่านใดยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกกริลแอร์แบบไหนดี สามารถติดต่อสอบถาม-ปรึกษากับทีมงานผู้เชี่ยวชาญของทางห้างหุ้นส่วนจำกัดยู.ดี. ไอเอิร์นได้ตามช่องทางติดต่อที่ท่านสะดวก เราพร้อมให้บริการทุกท่าน เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสินค้าคุณภาพดี คุ้มค่า ตามงบที่มีมากที่สุด
สนใจสินค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel: 084-326-6454 Line: @udirons