ในปัจจุบัน เทรนด์การฟื้นฟูย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยตึกแถวกำลังมาแรง ด้วยตัวตึกมีราคาถูกกว่าบ้านหลังเดี่ยว และส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในทำเลที่ดี เหมาะสำหรับทั้งอยู่อาศัยหรือทำธุรกิจ แต่ด้วยดีไซน์ภายในดั้งเดิม ทำให้อาจไม่ถูกใจเราที่เป็นเจ้าของใหม่ ทำให้มักมีการ รีโนเวทตึกแถว ใหม่ มาดูกันว่าทำอย่างไรให้ราคาไม่แพง และงบเหล่านั้นไม่บานปลายกัน
รีโนเวทตึกแถว ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง กับ 5 ข้อควรรู้ก่อนรีโนเวท
1.ไม่ควรทำเองทุกอย่าง
บางคนอาจคิดว่างานง่าย ๆ บางอย่าง เช่น การทาสีผนัง สามารถจัดการได้เองและต้องการประหยัดงบประมาณ แต่หากลองพิจารณาดูให้ดีแล้ว งบประมาณค่าแรงที่ประหยัดได้อาจไม่คุ้มสักเท่าไหร่ เช่น การซื้อวัสดุเองที่หากคำนวณพลาดก็ต้องเสียเงินและเสียเวลาไปซื้อเพิ่ม หรือซื้อมาเผื่อมากเกินจำเป็น
ส่วนงานทาสีที่อาจดูไม่ยากในตอนแรก แต่ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยมากกว่านั้น การเตรียมพื้นผิวที่ไม่ดีอาจทำให้สีลอกและล่อนเร็วกว่าเวลาอันควร ทำให้การเลือกใช้ช่างมืออาชีพและปรึกษาผู้ชำนาญการจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว การรีโนเวทบ้าน หรืออาคารนั้น ยังอาจมีปัญหาให้ต้องแก้ไขตามมาอีกมากมาย หากไม่ได้อยู่ในการดูเเลของช่างที่มีฝีมือคุณภาพดีพอ ก็อาจทำให้เราหงุดหงิด เเละเสียเงินซ้ำซ้อนไปมาโดยใช่เหตุ
2.ไม่ควรเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เช่น ตัดคาน ทุบผนังรับน้ำหนัก รื้อพื้น ไม่ควรตัดสินใจเอง เพราะระบบโครงสร้างของบ้านมีอยู่หลายประเภท ที่สำคัญโครงสร้างเหล่านี้มักมีการรับแรงสัมพันธ์กันเป็นระบบ การรื้อโครงสร้างเพียงบางส่วน จึงอาจส่งผลกระทบไปถึงโครงสร้างอาคารทั้งหลังได้ โดยเฉพาะอาคารเก่าที่ไม่มีแบบก่อสร้าง ยิ่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการรีโนเวท
อีกทั้งอาคารเก่ามักมีปัญหาซ่อนเร้นอยู่ในระบบโครงสร้าง เช่น เหล็กเส้นในโครงสร้างปูนที่ได้รับความชื้นมักเกิดสนิม หรือคานเสาที่มีปัญหาปริแตก ซึ่งอาจซ่อนอยู่ในพื้นที่ที่มองไม่เห็นอย่างในฝ้าเพดาน จึงควรตรวจสอบสภาพและแก้ไขให้แข็งแรงเสียก่อน โดยมีข้อควรระวังในการรีโนเวทและต่อเติมบ้าน ดังนี้
- ไม่ฝากโครงสร้างส่วนต่อเติมไว้กับโครงสร้างเดิม เพราะโครงสร้างใหม่อาจดึงรั้งจนทำให้โครงสร้างเดิมเสียหายได้
- ห้ามทุบ หรือเจาะ ผนังหล่อสำเร็จรูป เเละผนังรับน้ำหนัก เพราะผนังเหล่านี้ทำหน้าที่แทนเสารับน้ำหนัก หากเกิดความเสียหายอาจส่งผลต่อโครงสร้างของอาคารได้
- ระวังการเพิ่มน้ำหนักให้อาคาร เช่น การทำสวน และบ่อน้ำบนดาดฟ้าที่ไม่ได้เตรียมโครงสร้างไว้ หรือการเปลี่ยนรูปแบบอาคารใหม่จากที่พักอาศัยมาเป็นสำนักงาน เพราะที่พักอาศัยจะออกแบบให้รับน้ำหนักบรรทุกจริงได้อย่างน้อย 150 กิโลกรัมต่อตารางเมตร แต่สำหรับสำนักงาน ตัวโครงสร้างจำเป็นต้องรับน้ำหนักบรรทุกจริงอย่างน้อย 250 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
3.ไม่ควรละเลยงานระบบ
งานระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล และอื่น ๆ เป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงการใช้งานของอาคารทั้งหลังเลยทีเดียว โดยอาคารเก่ามักจะมาพร้อมกับระบบที่ทรุดโทรมและไม่สมบูรณ์ มากกว่านั้นยังมีปัญหาซ่อนเร้นที่รอการแก้ไขอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของระบบท่อต่าง ๆ หรือสายไฟที่เสื่อมสภาพ
ดังนั้นหากอาคารมีอายุเกิน 10 ปี ควรตรวจสอบอุปกรณ์สายไฟ และท่อว่าอยู่ในสภาพที่ดีไหม หากอาคารมีอายุเกิน 15 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนงานระบบใหม่ทั้งหมด ก็จะคุ้มค่ากว่าการต้องทุบรื้อพื้น และผนังเพื่อซ่อมแซมภายหลัง
ตัวอย่างการเลือกเปลี่ยนอุปกรณ์งานระบบ
- งานระบบไฟฟ้า: ควรเลือก สายไฟ THW ที่เหมาะสำหรับการเดินสายภายแบบฝังในผนังคอนกรีต โดยสายไฟประเภท THW เป็นสายไฟที่ห่อหุ่มด้วย PVC ทำให้แข็งแรง ไม่ขาดง่าย และที่สำคัญเหมาะสำหรับบ้านที่ใช้ไฟฟ้า 3 เฟสอีกด้วย
- งานระบบประปา: ควรเลือก ท่อ ppr ท่อน้ำที่มีความทนทานมากกว่าท่อ PVC เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานมากยิ่งขึ้น โดยท่อ PPR ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง สามารถใช้งานได้ทั้งนำ้เย็นและน้ำร้อน รักษาอุณหภูมิได้ดี
- ระบบปรับอากาศ : ควรศึกษาระบบที่เกี่ยวข้องกับการปรับอากาศ เช่น การติดตั้ง ท่อน้ำยาแอร์ โดยระยะการเดินของท่อแอร์ ส่งผลโดยตรงต่อการกินไฟ และการทำงานที่หนักมากขึ้นของคอมเพรสเซอร์ ซึ่งทำให้เสื่อมเร็วกว่าปกติ
4.ช่วยเลือกอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง
การช่วยเลือกอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยประหยัดงบง่ายขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เราต้องซื้อเองทั้งหมด เพราะถ้าหากซื้อเองข้อผิดพลาดก็อาจะตามมาได้ เช่น ซื้อมาผิดวัตถุประสงค์ หรือซื้อของมาไม่ครบ ต้องเสียเวลา
แต่ทั้งนี้การช่วยช่างเลือกอุปกรณ์ก็อาจทำให้งานเร็วมากยิ่งขึ้น เข้าไปเลือกในเว็บไซต์หรือเดินดูสินค้าที่ร้านว่าอยากได้ประมาณไหน เช่น ประตู, หน้าต่าง, กริลแอร์, พัดลมระบายอากาศ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราเห็นภาพและช่วยประหยัดงบมากขึ้นด้วย
5.ไม่ควรฝืนเก็บโครงสร้างเดิมไว้
หากสภาพโครงสร้างเดิมเสียหายมาก หรือเป็นอุปสรรคต่อการรีโนเวท การทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่จึงอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดแล้ว ยังทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าสิ่งก่อสร้างนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ก็ต้องลงทุนเพื่อบูรณะ เจ้าของบ้านควรประเมินร่วมกับนักออกแบบเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจน
ก่อนจะรีโนเวทตึกแถว ควรตั้งจุดประสงค์ให้ชัดเจน
สิ่งแรกที่ควรรู้ก่อนรีโนเวทอาคารพาณิชย์คือทำเพื่ออะไร ซึ่งต้องทำการกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งานของอาคาร รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น หรือตึกแถวที่จะนำมาทำการรีโนเวทใหม่ ว่าต้องการที่จะทำอะไรบ้าง ใช้ทำอะไร เป็นสถานที่แบบใด ยกตัวอย่างเช่น
- ต้องการปรับเปลี่ยนสไตล์ของบ้านตึกแถวเก่า หรือทำเป็นบ้านที่อยู่อาศัยที่สวยงามขึ้น
- ต้องการปรับปรุงหรือพื้นที่สำหรับการใช้สอยภายในบริเวณตึกแถว
- ต้องการปรับปรุงพื้นที่ให้บ้านดูโปร่ง สบายตามากยิ่งขึ้น
- ต้องการเพิ่มจำนวนห้องในตึก เพื่อทำห้องเช่าหรือเพิ่มสำหรับลูกหลาน
- ต้องการรีโนเวทพื้นที่นอกบ้าน เช่น ต่อเติมครัวนอกบ้าน หรือ ปรับปรุงสวน
- ต้องการดัดแปลงบ้านตึกแถวเป็นหน้าร้าน ร้านอาหาร คาเฟ่
- ต้องการรีโนเวทบ้านจากเป็นบ้านที่อยู่อาศัย ให้เป็นโฮมออฟฟิศ
- ต้องการรีโนเวทบ้านตึกแถวเป็นโรงแรม ห้องเช่า หอพัก
หรืออื่น ๆ นอกจากนี้ เพื่อที่จะได้สามารถวางแผนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการรื้อถอน ทุบหรือเจาะกำแพง ต่อเติม รวมไปถึงปรับเปลี่ยนสไตล์ของตึกและอาคารพาณิชย์ในส่วนไหนบ้าง ทำให้การทราบถึงจุดประสงค์ในการรีโนเวทอาคารล่วงหน้า จะทำให้การวางแผนเป็นไปได้โดยง่าย
นอกจากนี้ การรื้อโครงสร้าง การก่อสร้างต่อเติมบ้านตึกแถว ยังมีเรื่องกฎหมายที่ต้องคำนึงถึง การที่กำหนดว่าต้องการทำอะไรกับตัวบ้านบ้าง และเขียนออกมาเป็นแผน เพื่อประโยชน์มาในการคุยกับผู้ออกแบบ สถาปนิก หรือเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงการทบทวนกฎหมายว่า สิ่งที่ต้องการทำสามารถทำได้หรือไม่
ข้อควรระวังในการรีโนเวทตึกแถว
- ผู้รับเหมา : ควรมีการตรวจสอบประวัติและผลงานของผู้รับเหมา เลือกจากความน่าเชื่อถือ ความพร้อมในการรับงาน และราคาสมเหตุสมผล รวมถึงต้องมีการทำหนังสือสัญญาว่าจ้างรับเหมาก่อสร้างที่ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ถูกต้องด้วย
- การตัดสินใจ : ก่อนเริ่มการดำเนินงานรีโนเวทอาคารพาณิชย์นั้น จะต้องมีการวางแผนและการออกแบบให้แน่นอน ไม่ควรเปลี่ยนแปลงอะไรมากหลังเริ่มดำเนินการแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับโครงสร้างเพราะอาจเกิดความยุ่งยากตามมา จนต้องเสียเวลาในการแก้ไขหรืออาจต้องกลับไปเริ่มใหม่ ดังนั้นควรตัดสินใจให้รอบคอบก่อนจะเริ่มดำเนินการรีโนเวท
- เพื่อนบ้าน หรือเจ้าของที่ข้างเคียง : ควรระมัดระวังเรื่องการก่อสร้างหรือต่อเติมไม่ให้ผิดกฎหมายที่กำหนด รวมถึงไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านหรืออาคารที่อยู่ติดกัน เพราะอาจจะถูกร้องเรียนได้
สรุป
รีโนเวทตึกแถว หลังเดิมให้สวยเหมือนใหม่ ตามความต้องการของตัวเจ้าของ อาจทำให้จำเป็นจะต้องเปลี่ยนรูปแบบสไตล์ของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวทเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย เป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร หรืออื่น ๆ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร และไม่ควรที่จะตระหนี่ในส่วนที่ไม่สมควร เพราะนั่นจะทำให้เราพลาดจุดที่สำคัญ จนกลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องเสียทั้งเงิน และเวลาในการจัดการในภายหลังทั้งสิ้น
และหากใครที่กำลังมองหาร้านวัสดุก่อสร้างเพื่อที่จะรีโนเวทตึกแถวของคุณอยู่ล่ะก็ UDWASSADU คือร้านวัสดุก่อสร้างที่จำหน่ายอุปกรณ์งานระบบปรับอากาศ ไฟฟ้า สุขาภิบาล ทุกชนิด มีราคาที่ถูกจับต้องได้ และมีคุณภาพสินค้าที่ดี พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ การันตีด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 25 ปีของทางเรา มั่นใจได้เลยว่าวัสดุเหล่านั้นจะถึงมือของคุณตามที่นัดหมายกันไว้แน่นอน