กริวแอร์ที่สกปรก เป็นปัญหาการทำความสะอาดที่หลายคนหนักใจ เนื่องจากทำความสะอาดหน้ากากแอร์คนเดียวนั้นลำบากในมุมมองของหลาย ๆ คน ซึ่งในความจริงแล้ว การทำความสะอาดกกริวแอร์ ไม่ได้ยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิด ทั้งยังสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวได้อีกด้วย พร้อมกับการแนะนำการเลือกใช้หน้ากากแอร์ว่าแต่ละแบบควรใช้งานแบบไหน หรือควรเลือกซื้อที่วัสดุอะไร ไปดูพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้
7 ขั้นตอนล้างกริวแอร์ให้สะอาดเหมือนใหม่ด้วยตัวเอง
การล้างกริวแอร์ให้สะอาดนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งแต่ละคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่าย ๆ เพียงแค่ 7 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ตัดระบบไฟฟ้าทุกครั้งก่อนการทำความสะอาด
ตัดระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับกริวแอร์ หรือกริวระบายอากาศตัวนั้น ๆ ก่อน เพื่อป้องกันถูกไฟฟ้าช็อตขณะทำการถอดกริวระบายอากาศออกมาล้าง
2. ดูดฝุ่นภายในช่องระบายอากาศ
ดูดฝุ่นทำความสะอาดภายในช่องระบายอากาศที่เราจะถอดตัวกริวระบายอากาศออกมาล้าง รวมไปถึงผิวของกริวระบายอากาศที่จะถอดออกมาด้วย
3. ถอดกริวระบายอากาศ
ถอดตัวกริวระบายอากาศนั้น ๆ ออกมาจากจุดที่ติดตั้งเอาไว้ ซึ่งหากอยู่สูงไป ก็ให้นำบันไดมาวาง เพื่อที่จะเอื้อมมือไปถอดได้ถึง
4. ล้างกริวระบายอากาศด้วยน้ำสะอาด
ทำการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อชำระล้างฝุ่นขนาดใหญ่ที่เกาะอยู่บนกริวระบายอากาศออกไปให้หมดเสียก่อน
5. ล้างฝุ่นบนกริวระบายอากาศด้วยน้ำยาทำความสะอาด
นำน้ำสบู่ล้างจาน ซันไลต์ หรือน้ำยาทำความสะอาดอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์อ่อน ๆ มาล้างอีกรอบ เพื่อให้เศษฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่หลุดออกไปให้หมด ก่อนที่จะใช้น้ำสะอาดมาชำระล้างกริวระบายอากาศอีกครั้ง
6. ทำให้กริวระบายอากาศแห้งหลังทำความสะอาด
นำเครื่องเป่าลมมาเป่าตัวกริวระบายอากาศให้น้ำแห้งเสียก่อน หรือถ้าไม่มีเครื่องเป่าลม ก็นำกริวระบายอากาศไปผึ่งไว้ให้แห้งเสียก่อน จากนั้นจึงเช็ดให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันให้เกิดคราบจนดูสกปรก และป้องกันการขึ้นสนิมสำหรับกริวระบายอากาศที่ทำมาจากโลหะ
7. ติดตั้งกริวระบายอากาศกลับที่เดิม
นำกริวระบายอากาศที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว กลับไปติดตั้งยังจุดเดิมที่ถอดออกมา
ด้วย 7 ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงแค่นี้ กริวแอร์ หรือหน้ากากแอร์ของคุณก็จะสะอาดเหมือนใหม่ ไม่มีคราบฝุ่นเกาะจนดูสกปรก และไม่ต้องกังวลว่าฝุ่นจะกระจายไปทั่ว รวมไปถึงยังสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง ไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาไปเรียกคนมาทำความสะอาดให้เสียเงินอีกต่อไป
งานแบบไหน ที่เหมาะกับหน้ากากแอร์ในแต่ละแบบ
การเลือกหน้ากากแอร์ หรือ กริวแอร์ให้เหมาะสมกับสถานที่ เบื้องต้นแล้วจำเป็นต้องดูพื้นที่หน้างาน และวัตถุประสงค์ในการใช้งานนั้น ๆ ว่ามีการนำไปใช้งานเพื่ออะไรบ้าง
-
ใช้งานภายในบ้าน
สำหรับการใช้งานภายในบ้าน ควรเลือกใช้ Return Air Grille คู่กับหัวจ่ายลมแบบเป่าข้างที่มีใบ 2 ชั้น เนื่องจากมีราคาย่อมเยาว์ และสวยงาม รวมถึงเมื่อทำสีขาวก็ช่วยให้กลืนไปกับฝ้าได้ง่ายอีกด้วย
-
ใช้งานภายในล็อบบี้
สำหรับการใช้งานภายในล็อบบี้โรงแรม หรือล็อบบี้อาคารอื่น ๆ ที่ต้องการความสวยงาม มักมีการเลือกใช้ Return Air Grille คู่กับ Linear Slot Diffuser แทน เนื่องจากมีความสวยงามกว่า ขณะที่ราคาก็ย่อมสูงกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งจะช่วยทำให้ลมไม่ปะทะเข้ากับผู้ที่ใช้งานภายในห้องตรง ๆ ทำให้รู้สึกสบายและไม่หนาวเกินไป
-
ใช้งานภายในห้องพัก
สำหรับการใช้ภายในงานห้องพักในโรงแรม หรือห้องพักตามคอนโดต่าง ๆ มักนิยมนำ Supply Air Register มาใช้งาน ซึ่งจะเหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ ที่มีการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานในพื้นที่มาก เนื่องมาจากลมที่เป่าออกมาเหล่านั้นจะตกลงทันที่ออกจากหัวจ่าย จะทำให้บริเวณนั้นเย็นกว่าจุดอื่น ๆ
-
ใช้งานภายในห้องประชุม หรือห้องจัดเลี้ยง
สำหรับการใช้ภายในงานห้องประชุม หรือห้องจัดเลี้ยง Round Ceiling Diffuser เป็นหัวจ่ายลมที่จะตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เนื่องจากหัวจ่ายลมแบบนี้ สามารถกระจายลมรอบทิศทางได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีราคาสูงกว่าแบบสี่เหลี่ยม และมีความเร็วลมโดยประมาณอยู่ที่ 400 ถึง 650 ฟุตต่อนาที
-
ใช้งานภายในอาคารสำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้า
สำหรับการใช้ภายในอาคารสำนักงาน หรือ งานห้างสรรพสินค้า กริวที่ระบายลมออกจะเลือกใช้เป็นพวกกริวปล่อยลมสี่ทิศทาง เนื่องจากกริวระบายอากาศประเภทนี้ สามารถกระจายลมได้อย่างทั่วถึง รองรับการใช้งานในบริเวณที่มีพื้นที่มาก ๆ ได้
-
ใช้สำหรับงานระบายอากาศ
สำหรับการใช้ในงานระบายอากาศของอาคารต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้ Exhaust Air Grille ที่ช่วยนำเอาอากาศเสียส่งต่อไปยังพัดลมดูดอากาศภายในท่อ เพื่อรอการทิ้งสู่ด้านนอกอาคาร
ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการแนะนำเพียงขั้นต้นเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วก็จำเป็นที่จะต้องดูพื้นที่หน้างาน และวัตถุประสงค์ในการใช้งานอีกครั้งอยู่ดี ซึ่งควรที่จะให้ช่างผู้เชี่ยวชาญนั้นประเมินแบบ และพื้นที่ใช้งานจริงก่อนที่จะจัดหากริวระบายอากาศมาติดตั้งใช้งาน
หน้ากากแอร์ที่ทำจากวัสดุชนิดไหน ถึงจะตรงกับความต้องการของเรากันนะ
-
เหล็ก
เป็นวัสดุสำหรับทำหน้ากากแอร์ที่เรียกได้ว่าแข็งแรงทนทานมากที่สุด ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาหน้ากากแอร์ที่แข็งแรงในพื้นที่ที่มีการสัญจรไปมาสูง และต้องการหน้ากากแอร์ที่รับน้ำหนักได้มากนั่นเอง
-
ทองเหลือง
หากใครที่กำลังมองหาหน้ากากแอร์ที่เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก หรือบ้านสไตล์วินเทจ และต้องการรักษารูปลักษณ์แบบโบราณเหล่านั้นเอาไว้ ไม่ให้เสน่ห์ของมันถูกขัดขวางไปจากหน้ากากแอร์ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย หน้ากากแอร์ที่ทำจากวัสดุทองเหลืองจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
-
อลูมิเนียม
สำหรับหน้ากากแอร์ที่ทำจากอลูมิเนียม มันถือได้ว่าเป็นวัสดุที่มีราคาถูกกว่าเหล็กและทองเหลือง ทั้งยังมีความทนทาน และทำความสะอาดง่ายหากเทียบกับอีกสองอย่างก่อนหน้านี้ จึงไม่แปลกที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
-
พลาสติก
หน้ากากแอร์ที่ทำจากพลาสติก ถือได้ว่าเป็นหน้ากากแอร์ชนิดใหม่ที่มีราคาที่ถูกเป็นอย่างมาก ถูกกว่าหน้ากากแอร์ที่ทำจากอลูมีเนียมเสียอีก มีจุดเด่นที่น้ำหนักที่เบา ทำให้ติดตั้งได้ง่าย แต่ความแข็งแรงนั้นมีน้อยที่สุดในบรรดาวัสดุทั้งหมดนั่นเอง
สรุป
ซึ่งหากใครที่ต้องการถอดหน้ากากแอร์ของตัวเองมาล้างทำความสะอาด หลังจากอ่านบทความนี้จบ รับประกันได้เลยว่าจัดการล้างเองคนเดียวได้อย่างสบาย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน และใครที่กำลังมองหากริวแอร์ใหม่ให้กับบ้านของตัวเองอยู่นั้น แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อที่ไหนดี เว็บไซต์ UDWASSADU ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ด้วยประสบการณ์ของร้านที่อยู่ในวงการวัสดุการช่างมามากกว่า 25 ปี จึงสามารถมั่นใจได้ว่า สินค้าทุกชิ้นของเรามีคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานสากล และมีราคาที่สมเหตุสมผลทุกชิ้นอย่างแน่นอน