เป็นข้อสงสัยที่หลาย ๆ คนกำลังตามหาคำตอบ เกี่ยวกับปัญหาของ ระบบท่อแอร์ที่ผ่านการใช้น้ำยาแอร์ R22 จะเปลี่ยนมาใช้กับน้ำยาแอร์ R32 ได้ไหม ? เนื่องจากน้ำยาแอร์ หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า “สารทำความเย็น” ในปัจจุบันจากเดิมพันที่เคยใช้ในรูปแบบ R22 เริ่มเปลี่ยนมาใช้แบบ R32 มากขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเมื่อจำเป็นต้องเติมน้ำยา ไปจนถึงการซ่อมบำรุงต่าง ๆ นั้นมีแนวโน้มจะสูงขึ้นมากเรื่อย ๆ จึงทำให้หลาย ๆ คนอยากเปลี่ยนจาก R22 มาเป็น R32 แต่ระบบท่อเดิมจะยังใช้งานได้อยู่ไหม ? ตามหาคำตอบจากบทความนี้
ท่อแอร์คืออะไร ทำไมต้องใช้น้ำยาแอร์
ท่อแอร์คือ หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบปรับอากาศ โดยท่อแอร์ทำหน้าที่สำหรับเดินระบบปรับอากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบน้ำยา ระหว่างคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น หน้าที่หลักของท่อแอร์คือ ทำหน้าที่ดูดและส่งน้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น โดยจะใช้ท่อทองแดง 2 ขนาด เพื่อทำระบบส่งความเย็นด้วยสารจากน้ำยาแอร์สู่เครื่องปรับอากาศ ทำให้อุณหภูมิเย็น
ความสำคัญของท่อทองแดง
ทองแดงมีความสำคัญต่อการทำท่อแอร์ โดยนิยมนำมาใช้ทำท่อแอร์ ซึ่งทำหน้าที่ส่งสารความเย็นให้กับเครื่องปรับอากาศทั้งตัวนอกและตัวใน หรือคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นนั้นเอง ทั้งนี้สารความเย็นที่เติมเข้าไปในระบบ จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นแอร์ สารความเย็นจะวิ่งผ่านคอยล์เย็นคอยล์ร้อนและท่อทองแดง หรือท่อระบบน้ำยาแอร์ เพื่อให้อุณหภูมิเย็นได้
น้ำยาแอร์ คืออะไร มีกี่แบบ
น้ำยาแอร์ หรือ สารทำความเย็น (Refrigerants) เป็นของเหลวหรือสารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาหรือทำให้เกิดความเย็นขึ้น เป็นตัวกลางในการทำหน้าที่รับ ดูดซับ น้ำยาแอร์และนำพาความร้อน เพื่อทำปฏกิริยาขยายตัว โดยจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวให้กลายเป็นไอหรือแก็ส และเมื่อสารดังกลายแปรสภาพจากของเหลวเป็นไอแก็สแล้ว ก็จะเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นของเหลวได้อีกครั้ง
น้ำยาแอร์มีกี่แบบ
น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น จะขึ้นต้นด้วยอักษรภาษาอังกฤษอย่างตัว “R” ย่อมาจาก Refrigerants โดยน้ำแอร์มีหลายประเภทแต่ในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้
- น้ำยาแอร์ R-22 สารทำความเย็นยอดนิยมที่ช่างแอร์หลายคนนิยมใช้ โดยใช้กับแอร์บ้านทั่วไป มีค่า ODP หรือค่าดัชนีวัดการทำลายโอโซน = 0.05 ค่า GWP หรือค่าดัชนีวัดผลกระทบภาวะโลกร้อน = 1810 และมีค่า Cooling Capacity หรือค่าประสิทธิภาพการทำความเย็น = 100 ซึ่งข้อดีของน้ำยาแอร์แบบ R-32 คือ มีราคาถูกกว่าประเภทอื่น แต่มีข้อเสียคือ เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และทำลายชั้นโอโซนอีกด้วย
- น้ำยาแอร์ R-32 เป็นน้ำยาแอร์ที่พัฒนาจากน้ำยาแอร์ R-22 เพื่อทดแทน โดยมีการปรับปรุงค่าดัชนีวัดการทำลายโอโซนให้น้อยกว่า R-22 ทำให้ไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่มีข้อเสียอยู่ตรงที่ราคาจะแพงกว่า R-22 อย่างไรก็ดีค่าดัชนีวัดผลกระทบภาวะโลกร้อน ก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้ลดลง
ท่อแอร์เดิมที่ใช้น้ำยาแอร์ R22 สามารถใช้กับ R32 ได้ไหม ?
ถือว่าเป็นเรื่องน่าสนใจพอสมควร จากการที่เราหาความรู้จากในอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับท่อน้ำยาแอร์ R22 สามารถใช้กับน้ำยาแอร์ R32 ได้ไหม ? ข้อสงสัยนี้ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นข้อสงสัยในระดับโลกเลยทีเดียว ซึ่งเบื้องต้นต้องขอกล่าวถึงความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คน ที่บอกไปในทิศทางทางเดียวกันว่า “ไม่ได้” เพราะ น้ำยาแอร์ทั้งคู่มีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเกิดผลเสียหากฝืนใช้งานท่อเดิม แต่ก่อนจะไปรู้ถึงข้อเสีย เรามารู้กันก่อนว่า ระหว่างน้ำยาแอร์ R22 กับ R32 มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ?
-
น้ำยาแอร์ R22
น้ำยาแอร์ R22 เป็นน้ำยาแอร์ที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาหนึ่ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพการทำความเย็นได้ดี ถูกใช้ในระบบปรับอากาศไปทั่วโลก แต่ปัญหาของน้ำยาแอร์ประเภทนี้ก็คือ ก่อสร้างเรือนกระจก ส่งผลเสียต่อชั้นบรรยากาศ หากถามว่าน้ำยาแอร์ R22 อันตรายไหม ? อาจต้องบอกว่า เป็นน้ำยาแอร์ที่ก่อให้เกิดมลภาวะโลกร้อนก็เป็นได้
-
น้ำยาแอร์ R32
น้ำยาแอร์ R32 ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทน R22 เป็นสารทำความเย็นในประเภท HFC (Hydrofluorocarbon) ซึ่งก่อให้เกิดสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศน้อยมาก ๆ โดยที่ประสิทธิภาพการทำงานยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของมลภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำยาแอร์ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ท่อน้ำยาแอร์ R22 ใช้กับน้ำยาแอร์ R32 ได้ไหม ? อย่างที่เรากำลังกล่าวถึงในบทความนี้นั่นเอง
3 เหตุผล ที่ทำให้เมื่อเปลี่ยนน้ำยาแอร์ จำเป็นต้องเปลี่ยนท่อแอร์ควบคู่ไปด้วย
การเติมน้ำยาแอร์ผิดเบอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งต้องห้ามที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสารประกอบภายในน้ำยาแอร์นั้นแตกต่างกัน นอกจากนั้นยังมีในส่วนของสารหล่อลื่นภายในระบบแอร์ ที่ใช้ไม่เหมือนกันอีกด้วย ในส่วนของน้ำยาแอร์เบอร์ R22 จะใช้สารหล่อลื่นคอมเพรสเซอร์เป็นน้ำมันแร่ ส่วนเบอร์ R32 จะใช้น้ำมันแร่ ดังนั้นจะทำให้นำมาใช้ร่วมกันไม่ได้เป็นอันขาด แต่ถ้าอยากให้แจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจนมากกว่านั้น เราก็มี 3 เหตุผลที่เมื่อเปลี่ยนน้ำยาแอร์ ต้องเปลี่ยนท่อไปพร้อมกัน ตามเนื้อหาดังต่อไปนี้
1.อาจเกิดการรั่วซึมได้ง่าย
เนื่องจากการส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ทำให้ชนิดของท่อที่เหมาะสมสำหรับน้ำยาแต่ละเบอร์นั้นแตกต่างกัน การที่เปลี่ยนน้ำยาแอร์จะต้องเปลี่ยนท่อด้วย เนื่องจากท่อชนิดเดิมอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้กับน้ำยาใหม่ การเกิดปฏิกิริยาทางเคมี จนกัดกร่อนทำให้ท่อบาง สุดท้ายก็จะเกิดการรั่วซึมได้นั่นเอง
2.ความดันที่เปลี่ยนไปของน้ำยาแอร์
หากอ้างอิงข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จะพบว่าแรงดันที่กระทำภายในท่อของน้ำยาแอร์ทั้ง 2 ชนิดนั้นแตกต่างกันเกือบเท่าตัว โดยจะเป็นในส่วนของน้ำยาแอร์ R32 ที่กระทำต่อท่อมากกว่าน้ำยาแอร์ R22 ซึ่งส่งผลให้ท่อน้ำยาแอร์ R32 ควรต้องมีความหนามากกว่า เพราะเหตุนี้ทำให้เมื่อเปลี่ยนจากน้ำยา R22 มาเป็น R32 จึงควรเปลี่ยนท่อด้วยนั่นเอง
3.เป็นเรื่องยากที่จะทำให้น้ำยาแอร์เดิมออกจากระบบท่อได้อย่างหมดจด
หลังจากคลายข้อสงสัยกันไปแล้วว่าหลังจากเปลี่ยนน้ำยาแอร์ ท่อที่เหลืออยู่สามารถใช้แทนกันได้ไหม อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนระบบท่อหากจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำยาแอร์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ระบบท่อกลับมาสะอาด ไร้สารตกข้างใด ๆ หลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของน้ำยาแอร์เดิม ไปจนถึงสารหล่อลื่นในระบบ จึงเป็นการดีมากกว่าหากเปลี่ยนระบบท่อใหม่ทั้งหมด
ท่อน้ำยาแอร์ R22 ใช้กับ R32 ได้ ไหม แนวทางการเปลี่ยนท่อน้ำยาแอร์
หากคุณอ่านมาจนถึง ณ จุดนี้ คงได้คำตอบแล้วว่า ท่อน้ำยาแอร์ R22 ใช้กับน้ำยาแอร์ R32 ได้ไหม ซึ่งคำตอบเด่นชัดเลยว่า “ไม่ควรใช้” อาจจะมีบางกรณีที่สามารถทำได้ก็เป็นได้ แต่จะเป็นการดีมากกว่าหากเปลี่ยนระบบท่อไปเลยในคราวเดียวกัน นอกจากเปลี่ยนระบบท่อแล้ว ยังมีแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- ประเมินระบบ ต้องประเมินว่าระบบเดิมมีส่วนไหนจำเป็นต้องเปลี่ยนบ้าง สิ่งไหนที่ยังคงใช้งานได้อยู่
- เปลี่ยนชิ้นส่วนที่จำเป็น หากชิ้นส่วนเดิมไม่รองรับการใช้น้ำยาใหม่ จำเป็นต้องเปลี่ยนในส่วนนั้นใหม่ทั้งหมด
- ทำความสะอาดระบบ ต้องมั่นใจว่าสิ่งตกค้างต่าง ๆ ภายในระบบถูกชำระล้างออกไปได้มากที่สุด ต้องใกล้เคียงกับคำว่า 100% มากที่สุด
- เปลี่ยนของเหลวที่จำเป็น ของเหลวที่จำเป็นนอกจากน้ำยาแอร์แล้ว จะเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับคอมเพรสเซอร์แอร์ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน
- ทดสอบการรั่วไหลก่อนใช้งานจริง หลังจากจัดเตรียมระบบต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องทดสอบการรั่วไหลของส่วนต่าง ๆ ระบบท่อที่เดินใหม่ ไปจนถึงคอมเพรสเซอร์ เป็นต้น
สรุป
ท่อน้ำยาแอร์ R22 ใช้กับ R32 ได้ ไหม หลังจากเราได้แนะนำข้อมูลต่าง ๆ อย่างชัดเจนแล้วว่า ท่อน้ำยาแอร์ R22 ใช้กับน้ำยาแอร์ R32 ได้ไหม ไปแล้วว่าไม่ได้ ทำให้เมื่อคุณมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำยาแอร์ จำเป็นจะต้องมองหาท่อใหม่ทั้งระบบ รวมไปถึงฉนวนยางดำ ฉนวนหุ้มท่อแอร์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทุกชิ้นส่วนที่คุณต้องการต่างก็รวมกันอยู่ภายในร้าน UDWASSADU ของเรา คุณสามารถมองหาสินค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจรจากที่นี่ ที่เดียว ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @udirons