รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น สำหรับบ้านไหนที่มีอายุหลายปี ย่อมมีการเสื่อมโทรมเป็นธรรมดา รวมถึงความต้องการที่เปลี่ยนไปและพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด ดังนั้นจึงได้เวลารีโนเวทบ้าน ปรับบ้านหลังเก่าให้เป็นบ้านหลังใหม่ ด้วย 7 ข้อควรรู้ก่อน รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
1.ตั้งโจทย์ให้ชัด ก่อนรีโนเวทบ้าน 2 ชั้น
ไม่ว่าจะ รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น, ชั้นเดียว หรืออาคารพาณิชย์ ท้ายที่สุดแล้ว โจทย์ไม่ต่างกันมาก คือ การตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่สุด โดยก่อนจะ รีโนเวทบ้าน อันดับแรกที่ควรทำคือ การตั้งโจทย์วางแผนการรีโนเวทให้ชัดเจน ซึ่งข้อนี้เป็นจุดสำคัญ
โดยหลายคนอาจะเข้าใจผิดว่า การรีโนเวทบ้านเพียงแค่ต่อเติมส่ิงที่ขาดหาย ใช้งบประมาณไม่มาก แต่แท้จริงแล้วงบประมาณในการรีโนเวทกับการสร้างบ้านใหม่นั้นใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่รีโนเวทบ้าน ได้เห็นทำเลและสภาพภูมิทัศน์ ทำให้สามารคาดเดาการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น
โดยโจทย์การ รีโนเวทบ้าน ของแต่ละบ้านก็ต่างกัน เช่น เจ้าของบ้านบางคนต้องการขยายห้องนอน เพื่อรอรับสมาชิกใหม่ในบ้าน, ปรับปรุงบ้านในเชิงพาณิชย์ หรือตั้งโจทย์ที่ความประหยัด ความคุ้มค่า ตั้งแต่วัสดุก่อสร้างไปจนถึงผู้รับเหมา เป็นต้น ซึ่งโจทย์นี้แหละจะเป็นการกำหนดทิศทางของการรีโนเวทจนถึงการคุมงบประมาณด้วย
2.เปลี่ยนแปลงโครงสร้างควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เช่น ทุบผนังหรือปรับเปลี่ยนคาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรตัดสินใจเอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะโครงสร้างบางประเภท อาจไปปรับเปลี่ยน อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าโครงสร้างนั้น เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทั้งหลัก หรือเป็นอาคารเก่าที่ไม่มีแบบแผนการก่อสร้าง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
นอกจากนี้ควรสำรวจโครงสร้างทั้งหมดก่อนปรับเปลี่ยน เพราะมีหลายครั้งอาคารเก่ามักซ่อนเร้นปัญหาอยู่ในงานระบบโครงสร้าง เช่น คานเสาที่มีการปริแตก สนิมในเหล็กโครงสร้างปูน รวมถึงบริเวณเพดาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อควรระวังก่อนรีโนเวท โดยตัวอย่างโครงสร้างที่ไม่ควรเปลี่ยนแปลง เช่น
- ไม่ควรสร้างสิ่งที่ไม่ได้เตรียมน้ำหนักไว้ เช่น บ่อน้ำหรือสวน ในชั้นที่ไม่ได้ออกแบบให้รับน้ำหนักตั้งแต่ต้น เพราะมีโอกาสที่จะเสียหายได้ในอนาคต
- ห้ามทุบ เจาะ ผนังหล่อสำเร็จรูป เพราะผนังเหล่านี้ทำหน้ารับน้ำหนักแทนเสา หรือคาน ดังนั้นถ้าทุบก็อาจส่งผลถึงโครงสร้างหลักได้
3.วางแผนการ รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น ให้ครอบคลุม
สำหรับการรีโนเวทบ้านถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่ควรวางแผนการรีโนเวทให้ครอบคลุม ตั้งแต่การตั้งโจทย์, ศึกษากฎหมาย, ไปจนถึงการเลือกวัสดุก่อสร้างที่ใช้งาน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ควรเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด เช่น การปรับโครงสร้าง เปลี่ยนแพลน รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องเจอ เป็นต้น
ตัวอย่างการวางแผนให้ครอบคลุม
- สรุปโจทย์และความต้องการที่ชัดเจน ไม่ควรเปลี่ยนไปมา เพราะอาจจะเสียเวลาและค่าใช้จ่าย
- จ้างสถาปนิก นักออกแบบ เพื่อออกแบบตามความต้องการ
- ศึกษากฏหมาย ว่าสามารถทำตามแบบที่ต้องการได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
- ยื่นขออนุญาต และเลือกจ้างผู้รับเหมา
- ศึกษาแผนงานการก่อสร้าง จากผู้รับเหมาให้ละเอียด เพื่อป้องกันการถูกโกง
- เตรียมพื้นที่สำหรับการรีโนเวท และบอกกล่าวเพื่อนบ้านใกล้เคียง เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง
4.ศึกษากฎหมายให้ดี
กฏหมายถือเป็นข้อควรระวังในการรีโนเวทบ้าน โดยการต่อเติมถือเป็นการดัดแปลงอาคาร ซึ่งสรุปเนื้อหาตามกฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ.2528) ว่าด้วยเรื่อง การดัดแปลงอาคารได้ว่าการดัดแปลงอาคารต่อไปนี้ต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้าง
- การต่อเติมหรือลดพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งเกิน 5 ตารางเมตร โดยมีการเพิ่มเสาและคาน
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคารที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กหรือโครงสร้างเหล็ก
- การต่อเติมที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักแก่โครงสร้างเดิมเกิน 10 เปอร์เซ็นต์
- การต่อเติมหรือลดพื้นที่หลังคาเกิน 5 ตารางเมตร ซึ่งต้องยึดตามข้อกฎหมายปัจจุบันเป็นสำคัญ เช่น ตำแหน่งทางเข้าบ้านที่อาจต้องห่างจากถนนมากขึ้น เป็นต้น
5.ตรวจสอบงานระบบ
งานระบบสุขาภิบาล ระบบไฟฟ้า ระบบอากาศ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรดูแล โดยงานระบบเปรียบเสมือนหัวใจของอาคาร ยิ่งอาคารที่มีอายุการใช้เกิน 10 ปี ควรตรวจสอบงานระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไฟฟ้า ควรตรวจสอบสายไฟและท่อว่าสภาพดีอยู่ไหม หรือ ระบบสุขาภิบาล ควรตรวจสอบท่อว่ามีรอยรั่วจุดไหน เช็คระบบมิเตอร์ว่ามีการรั่วหรือไม่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างขั้นตอนการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเบื้องต้น
- ตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส สามารถตรวจสอบการทำงานได้เบื้องต้น เช่น สภาพขั้วไฟฟ้าที่อยู่ในวงจร สภาพคันโยกเบรคเกอร์ หรือแม้กระทั่งกลิ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการคาดคะเนได้เบื้องต้นถึงสภาพของระบบไฟฟ้า
- ตรวจสอบด้วยเครื่องมือทดสอบ ด้วยมัลติมิเตอร์ (Multimeter) เครื่องมือวัดไฟฟ้า โดยสามารถวัดปริมาณไฟฟ้า ทั้งกระแสตรงและกระแสสลับได้ ซึ่งพื้นที่สำหรับตรวจวัดกระแสไฟฟ้าอยู่ที่บริเวณ หลอดไฟ, บาลาสตร์ (Ballast) หรือในแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจาก 2 วิธีนี้ สิ่งสำคัญที่ควรตรวจสอบคือ สายไฟ โดยสาเหตุที่สายไฟเสื่อมสภาพมีหลายสาเหตุดังนี้
- อุณหภูมิที่สูงเกินไป โดยฉนวนที่ห่อหุ้มสายไฟอาจจะเสื่อมสภาพเพราะความร้อนได้
- กระแสไฟไหลผ่านมากเกินไป เช่น สายขนาดเล็กเกินไป หรือ ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มแต่ขนาดสายไฟยังเท่าเดิม เป็นต้น
- สายไฟถูกกดทับ เช่น การสั่นสะเทือน หรือ รอยต่อหลวม ย่อมส่งผลต่ออายุการใช้งานของสายไฟลดลง
ตัวอย่างขั้นตอนการตรวจสอบระบบน้ำ
- ตรวจสอบมิเตอร์ เช่น สภาพมิเตอร์มีสนิมเกาะหรือไม่, มีน้ำหยดตามข้อต่อหรือไม่ และวาล์วน้ำสามารถหมุนได้ปกติหรือไม่ เป็นต้น
- เช็คสภาพถัง สภาพถังที่ดีต้องไม่บวม ไม่ผิดรูป สีไม่ซีด ฝาถังต้องปิดสนิท รวมถึงตรวจสอบการรั่วซึม บริเวณเกลียวข้อต่อต่างๆ
- ตรวจสอบปั๊มน้ำ เช็คความชำรุดของส่วนประกอบต่างๆ ของปั๊มน้ำ เช่น ระดับเสียง และ คุณภาพน้ำที่ผ่านปั๊ม เป็นต้น
- ตรวจสอบระบบท่อ อย่างท่อ PVC ส่วนใหญ่จะเปราะและแตกง่าย ดังนั้นควรปรับมาใช้ ท่อ PPR เพราะมีความทนทานสูง โอกาสแตกหักน้อยมาก ช่วยป้องกันการรั่วซึมน้ำได้
6.เผื่องบไว้บ้าง เพื่อฉุกเฉิน
ในการทำบ้านไม่ว่าจะสร้างใหม่หรือรีโนเวท ควรเผื่องบสำรองไว้อย่างน้อย 20-30% ของงบประมาณการก่อสร้าง เพราะอาจต้องพบปัญหาหน้างานที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงควรแบ่งงบประมาณสำหรับเผื่อเหตุฉุกเฉิน เพื่อป้องกันโครงการล่าช้ากว่าที่ควร เพราะฉะนั้นควรรีบแก้ปัญหาตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นปัญหาอาจลุกล่ามมากขึ้น แล้วงบประมาณจะบานปลายมากกว่าที่ตั้งงบไว้
7.อย่าเปลี่ยนใจบ่อย
สุดท้ายสิ่งที่อยากบอกผู้อ่านทุกท่าน ไม่ว่าจะ รีโนเวทบ้านสองชั้น หรือ รีโนเวทอาคารพาณิชย์ ควรจะตัดสินใจให้เด็ดขาด อย่าเปลี่ยนใจบ่อย เพราะการเปลี่ยนใจบ่อยทำให้สูญเสียทั้งเวลา และที่สำคัญคือ สูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ
โดยก่อนจะตัดสินใจควรพูดคุยกับสถาปนิก ผู้รับเหมาก่อน อธิบายรายละเอียดที่ต้องการทั้งหมด เพื่อป้องกันการทุบ รื้อแก้ไขงาน ทั้งนี้สถาปนิกและผู้รับเหมา ก็ควรอธิบายการทำงานทั้งหมด รวมถึงเสนอแนะ ในส่วนที่เจ้าของบ้านอาจจะไม่เข้าใจ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจ งานก็ออกมาราบรื่น
สรุป
การ รีโนเวทบ้าน 2 ชั้น, ชั้นเดียว หรืออาคารพาณิชย์ มีข้อควรรู้ทั้งหมด 7 ข้อ เริ่มต้นตั้งแต่ การตั้งโจทย์ให้ชัดเจน, การวางแผนการสร้าง, ตรวจสอบระบบ ตั้งแต่ ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ไปจนถึงการเผื่องบประมาณ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ การรีโนเวทหรือการ สร้างบ้าน ลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นและทำให้บ้านสวยงามดั่งใจคิด