ปัจจุบันเจ้าของบ้านในยุคใหม่ ๆ มีการคำนึงถึงระบบระบายอากาศภายในบ้านกันมากยิ่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อน จากที่ในสมัยก่อนมักเชื่อกันว่า จำเป็นจะต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศแค่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเพียงเท่านั้น แต่ในตอนนี้เริ่มมีการแพร่หลายในการติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ฉะนั้น จึงมีข้อควรรู้หลายอย่างที่จำเป็นต้องรู้ก่อนที่จะหามาติดตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในงานระบบนั่นเอง รวมไปถึงเจาะลึกพัดลมดูดอากาศ ราคาเท่าไหร่กันบ้าง
ราคาของพัดลมดูดอากาศ พัดลมระบายอากาศแต่ละแบรนด์
ในปัจจุบัน พัดลมดูดอากาศ หรือพัดลมระบายอากาศนั้นมีหลากหลายแบรนด์ และหลากหลายราคาให้ได้เลือกสรรกันในท้องตลาด แต่จะมีอยู่ 3 แบรนด์หลัก ๆ ที่เป็นที่นิยม รวมไปถึงมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ได้แก่
- พัดลมดูดอากาศ Panasonic
Panasonic เป็นพัดลมดูดอากาศแบรนด์ที่คุ้นหูกันดี เนื่องจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์เก่าแก่ของตระกูลเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยม ทั้งในเรื่องของความน่าชื่อถือ, ชื่อเสียง, ความทนทาน และคุณภาพ รวมทั้งราคาที่สมเหตุสมผล
พัดลมดูดอากาศ Panasonic มีราคาประมาณ 600 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท
- พัดลมดูดอากาศ Hatari
Hatari เป็นพัดลมดูดอากาศที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน เป็นแบรนด์ที่กำลังดังและได้รับความน่าชื่อถือในเรื่องของพัดลม เนื่องจากมีชื่อเสียงในเรื่องของความทนทาน คุณภาพดีเป็นที่ยอมรับได้ ราคาถูก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นหรือแบรนด์ดัง ๆ ในท้องตลาด พัดลมระบายอากาศฮาตาริจึงได้รับความนิยมมาเป็นอันดับสองของตลาดในตอนนี้
พัดลมดูดอากาศของ Hatari มีราคาประมาณ 700 บาท ไปจนถึง 2,000 บาท
- พัดลมดูดอากาศ Mitsubishi
Mitsubishi เป็นพัดลมดูดอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีชื่อเสียงในเรื่องของความทนทาน สามารถใช้งานได้นานในสภาวะแวดล้องต่าง ๆ อีกทั้งอะไหล่ยังหาง่ายอีกด้วย นอกจากคุณภาพดีแล้ว ยังราคาถูกที่พอซื้อหามาคุ้มค่าเงินด้วย แบรนด์พัดลมมิตซูบิชิ จึงได้รับความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก รวมมาถึงพัดลมดูดอากาศนี้ด้วย
พัดลมดูดอากาศ Mitsubishi มีราคาประมาณ 700 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท
และยังมีของแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด ที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่ก็มีฟังค์ชั่นที่น่าสนใจ ในราคาที่พอเหมาะ ยกตัวอย่างเช่น
- พัดลมดูดอากาศ Victor มีราคาประมาณ 500 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท
- พัดลมดูดอากาศ Iwachi มีราคาประมาณ 300 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท
- พัดลมดูดอากาศ Yushi มีราคาประมาณ 1,000 บาท ไปจนถึง 6,000 บาท
- พัดลมดูดอากาศ SON มีราคาประมาณ 2,000 บาท ไปจนถึง 10,000 บาท
อนึ่ง ราคาต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการขายจริง หากท่านใดต้องการทราบราคาอย่างแม่นยำควรตรวจสอบราคาจากเว็บไซต์และหน้าร้านก่อนซื้อขาย
พัดลมระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศ ข้อควรรู้ก่อนการเลือกซื้อมาติดตั้ง
พัดลมดูดอากาศทำงานอย่างไร ?
หลักการทำงานของพัดลมดูดอากาศก็คือ การดูดเอาอากาศจากภายในพื้นที่นั้น ๆ ออกไปด้านนอก เพื่อช่วยในการหมุนเวียนของอากาศภายในพื้นที่เหล่านั้นให้ดีขึ้น ลดปัญหากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในห้องต่าง ๆ และทำให้อากาศภายในห้องบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
โดยหลักการติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ดีนั้น คือให้ติดตั้งตรงข้ามกับช่องลมเข้า เช่น ในห้องน้ำที่มีการติดตั้งช่องลมไว้ที่ด้านหน้าซึ่งมีลมเข้าได้เพียงด้านเดียว ก็จะไม่สามารถระบายอากาศและกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงมักเกิดปัญหากลิ่นอับและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่จะไม่ออกไปไหน หรือต้องใช้เวลานานกว่ากลิ่นเหล่านั้นจะหายไป จึงต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ผนังอีกด้านหนึ่งตรงข้ามกับช่องลมแทน เพื่อทำให้อากาศถูกดูดออกด้านนอกได้ง่าย ทำให้เกิดการถ่ายเทของอากาศได้สะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนมากการติดตั้งพัดลมดูดอากาศจะอยู่ที่ความสูงประมาณ 1.80-2.40 เมตร ตามหลักการที่ว่าอากาศร้อนนั้นลอยขึ้นด้านบน เราจึงได้เห็นพัดลมระบายอากาศติดอยู่ที่ความสูงประมาณนี้อยู่เป็นประจำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของพัดลมดูดอากาศที่เราเลือกใช้เช่นเดียวกัน
วิธีการเลือกพัดลมดูดอากาศ
วิธีการเลือกพัดลมดูดอากาศมีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงอยู่ 6 ข้อด้วยกัน เพื่อพิจารณาตัวเลือกของพัดลมดูดอากาศ ราคาต่าง ๆ ที่เราจะเลือกซื้อมาใช้งาน ได้แก่
1.คำนึงถึงหลักการไหลของอากาศภายในพื้นที่
สิ่งที่ต้องต้องคำนึงเป็นอย่างแรกในการเลือกพัดลมดูดอากาศ คือเรื่องหลักการการไหลของอากาศภายในพื้นที่ดังกล่าว เพราะโดยปกติแล้ว ลมจะเข้าช่องเล็ก ออกช่องใหญ่ หรือเข้าช่องล่าง ออกช่องบนตามทฤษฎีอากาศร้อนจะลอยขึ้นบน ส่วนอากาศเย็นจะตกลงด้านล่าง
ซึ่งการระบายอากาศที่ถูกต้องนั้น ต้องเกิดจากการไหลเวียนของอากาศภายนอกเข้ามาภายในตัวบ้าน โดยไม่ใช่ว่าดูดอากาศออกไปอย่างเดียว หรือเป่าลมเข้ามาอย่างเดียวเท่านั้น เช่น การเปิดประตูหน้าบ้านแต่ปิดประตูหลังบ้านไว้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบายอากาศที่ถูกต้องเช่นกัน ทำให้โดยหลัก ๆ แล้ว จะต้องติดพัดลมระบายอากาศตรงด้านที่รับการไหลเข้าของอากาศภายในห้องนั่นเอง
2.เลือกประเภทของพัดลมดูดอากาศ
ในการเลือกประเภทของพัดลมดูดอากาศไปติดในพื้นที่ต่าง ๆ ถ้าผนังด้านนั้นสามารถดูดเอาอากาศผ่านออกไปได้เลย ก็ให้ใช้พัดลมดูดอากาศแบบติดผนังหรือแบบติดกระจก แต่ถ้าไม่สามารถระบายออกได้โดยตรง ก็ต้องติดพัดลมดูดอากาศแบบฝังเพดานแทน
โดยทั้งนี้ จำเป็นต้องดูลักษณะห้องไว้ด้วย ถ้าเป็นห้องที่ปิดมิดชิด ควรติดแบบมีระบบดูดเข้าและออกเข้าไป แต่ถ้าเป็นห้องที่มีการไหลเวียนของอากาศอยู่แล้ว ก็ให้ติดแบบมีระบบดูดออกอย่างเดียวก็เพียงพอ เช่นในห้องครัว เป็นต้น
3.ขนาดใบพัดของตัวเครื่อง
ขนาดของพัดลมดูดอากาศมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจะต้องเลือกขนาดของเครื่องให้เหมาะสมกับห้องที่ใช้งาน อย่างเช่น ห้องครัวขนาดใหญ่ก็อาจจะต้องเลือกเครื่องที่มีขนาดใบพัดตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไป หรือถ้าห้องครัวขนาดเล็ก ก็ให้เลือกขนาดเล็กลงมาอย่าง 8 นิ้ว เป็นต้น
4.เสียงเบาไม่รบกวน
หากคุณติดตั้งพัดลมดูดอากาศไว้ในห้องนอนหรือออฟฟิศทำงาน เรื่องของเสียงนั้นก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ เพราะถ้าหากตัวเครื่องทำงานด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง สมาธิในการทำงานของผู้ที่อยู่ภายในห้องนั้นก็จะลดลง หรือถ้าอยู่ในห้องนอนก็อาจจะส่งผลกระทบกับการพักผ่อนที่ไม่เต็มที่
5.ประหยัดไฟฟ้า
เนื่องจากพัดลมดูดอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเปิดใช้งานติดต่อกันที่ค่อนข้างนาน ดังนั้น ยิ่งเปิดใช้เป็นเวลานานมากเท่าไหร่ ตัวพัดลมดูดอากาศก็จะกินไฟฟ้านานขึ้นเท่านั้น ยิ่งเครื่องไหนที่ใช้กำลังไฟเยอะ ก็จะทำให้เราต้องจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นมากกว่าเดิม จึงควรดูพัดลมดูดอากาศที่ได้รับการรับรองแล้วว่าประหยัดไฟนั่นเอง
6.ประกัน
ประกันสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาแล้วเกิดปัญหาหรือไม่สามารถใช้งานได้ ประกันก็จะทำให้เราสามารถนำเครื่องไปเคลมหรือเปลี่ยนสินค้าใหม่ตัวใหม่ได้ จึงควรเช็กทุกครั้งก่อนที่จะทำการซื้อ ว่าพัดลมดูดอากาศที่เราซื้อนั้นมีประกันหรือไม่อย่างไร
สรุป
พัดลมระบายอากาศ หรือพัดลมดูดอากาศ ราคามีอยู่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานของเราว่าจะนำไปใช้งานในด้านใด รวมไปถึงมีจุดประสงค์เช่นไรในการใช้งาน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องออกแบบโดยละเอียดทุกครั้ง เพื่อที่จะทำให้ไม่มีข้อผิดพลาดในงานระบบ รวมไปถึงการสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
UDWASSADU คืออีกหนึ่งเว็บไซต์ที่รวบรวมอุปกรณ์สำหรับงานระบบต่าง ๆ ไว้ครบครัน ไม่ว่าจะงานระบบปรับอากาศ ไฟฟ้า และสุขาภิบาลอย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์ของเราที่ยาวนานกว่า 25 ปี รับรองได้ถึงคุณภาพของวัสดุที่ได้ตามมาตรฐานสากล และพร้อมส่งทั่วประเทศ