สร้างบ้าน ถือเป็นความฝันของใครหลายคน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจสร้างบ้าน เจ้าของบ้านต้องเตรียมความพร้อมเป็นอย่างมาก เพื่อให้เห็นภาพรวมของบ้านตั้งแต่ดำเนินการก่อสร้างและหลังสร้างบ้านเสร็จ โดยวันนี้เรารวบรวม 7 เรื่องน่ารู้ก่อน สร้างบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าของบ้านทุกท่าน จะมีเรื่องไหนบ้างไปดูกันเลย
1.สำรวจทำเล สถานที่สำหรับปลูกสร้าง
สร้างบ้าน ทำเลเป็นสิ่งสำคัญที่ควรนึกถึงก่อนเป็นอันดับแรก ได้ทำเลที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง โดยทำเลที่ดีนอกจากถูกใจเจ้าของบ้านแล้ว ยังมีหลายปัจจัยที่ควรคำนึงถึงด้วย เช่น สภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบายในการเดินทาง เป็นต้น
1.ความปลอดภัยต้องมาก่อน
ความปลอดภัยคือ สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเพื่อความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้าน ทั้งความปลอดภัยจากอาชญากรรม โจรกรรม หรือแม้แต่ ความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยความปลอดภัยสร้างสามารถตรวจสอบได้หลายอย่างดังนี้
- ไม่ควรเลือกทำเล ใกล้บ่อขยะ โรงงาน หรือแหล่งอุตสาหกรรม เพราะอาจเกิดอันตรายตามมาได้ ซึ่งส่วนมากเป็นอันตรายด้านสุขภาพเป็นหลัก
- ไม่ควรเลือกทำเล ใกล้สถานบันเทิง หรือสนามบิน เพราะจะได้รับมลพิษทางเสียง ทำให้นอนหลับยาก ดังนั้นควรเลี่ยงสถานที่เหล่านี้
2.ทำเลต้องสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ทำเลสร้างบ้าน ควรเลือกที่ดินที่เดินทางสะดวกสบาย เข้า-ออกได้หลายทาง หรือใกล้กับสถานที่ทำงาน โรงเรียน ตลาด ห้างสรรพสินค้า รวมถึงโรงพยาบาลเผื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน ถ้าหากได้ทำเลประเภทนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
3.สาธารณูปโภคเข้าถึงครอบคลุม
ทำเลสร้างบ้าน ควรเลือกที่สาธารณูปโภคเข้าถึงครอบคลุม ตั้งแต่ ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และอินเทอร์เน็ต เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ควรเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง รวมถึงเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ถึงจะเรียกว่าเป็นทำเลที่ดีน่าอาศัย
2.ทิศทางลม แสงแดด กับตำแหน่งการ สร้างบ้าน
ทิศทางลม แสงแดด ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการอยู่อาศัย ดังนั้นควรเลือกตำแหน่งการสร้างบ้านที่เหมาะสม สำหรับในบทความนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ทิศที่ลมและแดดเป็นหลัก โดยทิศทางของลมและแดดแต่ละทิศมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ดังนี้
ทิศใต้หันหน้าเข้าบ้าน
- สายลม: ลมที่เข้าบ้านเป็นลมธรรมชาติ เข้าบ้านในฤดูร้อนและฝน โดยลมจะเข้าบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศมาก
- แสงแดด: บ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ แดดเข้าหน้าบ้านทั้งปี และเข้าทั้งวันด้วย ดังนั้นบ้านจะสะสมความร้อนจำนวนมาก ดังนั้นควร สร้างบ้าน ที่มีชายคาบังแดดหรือติดตั้ง ฉนวนใยแก้ว เพื่อลดความร้อนที่สะสมในบ้าน
ทิศเหนือหันหน้าเข้าบ้าน
- สายลม: ทิศเหนือลมจะเข้าทางข้างหลังบ้านในฤดูร้อนและฤดูฝน ส่วนฤดูหนาวลมจะเปลี่ยนทิศเข้าสู่บริเวณหน้าบ้านแทน
- แสงแดด:สำหรับทิศเหนือแสงแดด จะไม่ส่องตรงๆบ้าน ทำให้บ้านมีความร่มเย็นตลอด เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการเปิดม่านรับแสงแดด
ทิศตะวันออกหันหน้าเข้าบ้าน
- สายลม: ทิศตะวันออกลมเย็นจะพัดเข้าหน้าบ้านในช่วงฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนจะไม่ได้รับลมเท่าไรนัก
- แสงแดด: บ้านไหนชอบตื่นเช้า ทิศตะวันออกถือว่าตอบโจทย์ เพราะทิศตะวันออกตอนเช้าจะได้พาแดดอุ่นๆในยามเช้า แต่จะร้อนขึ้นเรื่อยๆเมื่อช่วงเวลาเที่ยงและบ่าย
ทิศตะวันตกหันหน้าเข้าบ้าน
- สายลม: บ้านที่หันทางทิศนี้เป็นที่อากาศจะร้อนกว่าทิศอื่นในช่วงบ่าย ดังนั้นหากบ้านอยู่ทิศนี้ ควรติดตั้งอุปกรณ์คลายความร้อน เช่น ฉนวนใยแก้ว, ระบบปรับอากาศ และพัดลมระบายอากาศ เป็นต้น
- แสงแดด: ทิศนี้เป็นทิศที่ไม่ได้รับแสงแดด เหมาะสำหรับคนที่ทำงานกะกลางคืน ที่นอนตอนเช้า แต่อย่างไรก็ตามแดดจะส่องบ้านในเวลาบ่าย ดังนั้นจึงควรปลูกต้นไม้ หรือติดระแนง เพื่อลดแสงให้บ้านมีร่มเงามากขึ้น
3.ระดับความสูงของพื้นที่ทั้งในและนอกอาคาร
ระดับความสูงของพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนสร้างบ้าน เพราะส่งผลโดยตรงต่อผู้อยู่อาศัย เช่น หากเป็นระดับความสูงภายในอาคาร ที่มีเพดานต่ำเกินไป ก็ทำให้ บรรยากาศภายในพื้นที่อึดอัด เป็นต้น โดยตัวอย่างระดับความสูงของพื้นที่ทั้งในและนอกอาคารมีดังนี้
- ระดับความสูงภายในอาคาร (ความสูงของเพดาน) ควรมีความสูงขั้นต่ำอยู่ที่ 2.6 เมตร ตามที่กฏหมายกำหนด แต่สำหรับใครที่ชอบความโปร่งโล่งสบาย ทางเราแนะนำความสูงที่ 3-5 เมตร แบบ Double Volume ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยเรื่องการถ่ายเทของอากาศอีกด้วย
- ระดับความสูงนอกอาคาร ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ส่วนใหญ่แนะนำให้ถมสูงขึ้น 30-50 ซม. เพื่อป้องกันอุทุกภัย น้ำท่วม ทั้งนี้การถมดินเพื่อเพิ่มความสูงของบ้าน ควรถมและใช้เวลารอดินเกาะตัว 1-2 เดือน เพื่อป้องกันดินทรุดตัว
4.การวางตำแหน่งของห้อง (ฮวงจุ้ยและสถาปัตยกรรม)
ทิศทางกับตำแหน่งของห้องในเรื่องฮวงจุ้ยกับสถาปัตยกรรม ถือเป็นสิ่งของคู่กัน โดยหลักฮวงจุ้ยถ้าวางตำแหน่งห้องที่เหมาะสม ผู้อยู่อาศัยยิ่งเกิดความสบายใจตามไปด้วย แต่ทั้งนี้นอกเหนือจากความสบายใจแล้ว ควรคำนึงถึงหลักการใช้งาน รวมถึงหลักสถาปัตยกรรม ถ้าวางตำแหน่งผิดท่ีก็อาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ โดยตัวอย่างตำแหน่งของฮวงจุ้ยและสถาปัตยกรรมมีดังนี้
ห้องนอน
- ฮวงจุ้ย: ทิศตะวันออกเฉียงใต้, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นทิศมงคล ส่วนทิศที่หลีกเลี่ยงคือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะเป็นทิศที่ไม่ได้รับแดดและลม ไม่ควรตั้งอยู่ใกล้กองขยะ, เมรุ, แปลงไฟฟ้า ควรตั้งสิ่งที่มงคล เช่น ทะเลสาบ, สระว่ายน้ำ และสวนหย่อมจะช่วยให้อากาศดี เป็นต้น
- สถาปัตยกรรม:ทิศตะวันออก เป็นทิศที่ดีที่สุดสำหรับห้องนอน เพราะแสงแดดจะส่องอ่อนๆในช่วงเช้า ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นอีกด้วย
ห้องครัว
- ฮวงจุ้ย: ทิศเหนือ ส่งเสริมการงานมีกินมีใช้, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งเสริมการศึกษา ทำให้เฉลียวฉลาด, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งเสริมเรื่องการอุปภัมถ์ ให้ผู้ใหญ่เมตตาเอ็นดู
- สถาปัตยกรรม: ทิศตะวันตกเป็นทิศที่เหมาะสม เพราะช่วยลดความอับซื้นและฆ่าเชื้อโรคได้
ห้องรับแขก
- ฮวงจุ้ย: ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าอยู่ทิศไหน แต่ควรอยู่ที่มองเห็นง่าย เด่นชัด ไม่อยู่ใต้ชั้นลอย คาน ไม่ควรมีตำแหน่งตรงข้ามประตูในตำแหน่งโชคลาภ เพราะเก็บโชคลาภไม่อยู่
- สถาปัตยกรรม: ควรเป็นพื้นที่โล่งกว้าง และมีช่องแสงจำนวนมาก เพื่อให้มองเห็นวิวทัศน์ได้ชัดเจน ช่วยให้รู้สึกโปร่งสบาย
5.ระบบสาธารณูปโภค
ระบบสาธารณูปโภค เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะถือเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา สิ่งเหล่านี้ถือไม่ศึกษาให้ดี โอกาสเสียก็มีสูง ทั้ง การเลือก สายไฟ การติดตั้งสายไฟให้ดี เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ระบบประปา ควรเลือกท่อน้ำให้ดี เช่น ใช้ท่อน้ำท่ีแข็งแรงทนทานอย่าง ท่อ PPR แทนท่อ PVC เป็นต้น
ซึ่งระบบสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้าและระบบประปา มีค่าใช้จ่ายที่สูงหากแก้ไขที่หลัง เช่น ย้ายห้องน้ำ เดินท่อระบบน้ำใหม่ ราคาก็จะสูงขึ้น หรือ การเปลี่ยนเดินสายไฟหนึ่งครั้ง ราคาก็จะสูงตามไป ดังนั้นจึงควรศึกษาระบบสาธารณูปโภค ให้มั่นใจก่อนตัดสินใจสร้างบ้าน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นที่หลัง
ตัวอย่างการเลือกระบบสาธารณูปโภค
- ระบบปรับอากาศ: เลือก พัดลมระบายอากาศ ที่ช่วยระบายความร้อน ในส่วนต่างๆ ทั้งในห้องน้ำ ห้องครัว เพราะนอกเหนือจากการระบายความร้อนแล้ว ยังช่วยลดความชื้นภายในบ้านบริเวณที่สะสมกลิ่นเหม็นอับ ทำให้บ้านสดชื่นมากยิ่งขึ้น
- ระบบไฟฟ้า: เลือก สายไฟ THW สายไฟชนิดที่มีฉนวนเปลือกหุ้มด้วย PVC ที่หุ้มแกนนำทองแดงของสายไฟ มีให้เลือกทั้งแบบสายเดียวและหลายเส้น เหมาะสำหรับเดินสายภายในอาคาร หรือ เดินฝังผนังคอนกรีต อีกทั้งยังงานรวมกับวงจรไฟฟ้า 3 เฟส เหมาะสำหรับบ้านไหนที่ใช้รถไฟฟ้า
- ระบบประปา: เลือก ท่อ PPR ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง ข้อต่อสามารถเชื่อมประสานผสานเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เกิดรอยรั่ว ระหว่างข้อต่อท่อและข้อต่อ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น รักษาอุณหภูมิน้ำ ทนความร้อน ทนแรงดันได้สูง นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้ที่นานอีกด้วย
6.ความต้องการของเจ้าของบ้าน
การสร้างบ้านหนึ่งหลัง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความต้องการของเจ้าของบ้าน ดังนั้นจึงควรถามตัวเองและถามสมาชิกในบ้านว่า ต้องการอะไรบ้างที่อยู่บ้าน เช่น เด็กๆอยากได้สระว่ายน้ำ หรือพ่อบ้านอยากได้สวนหย่อมเล็กๆ ไว้พักผ่อนหย่อนใจ โดยตัวอย่างของความต้องการของเจ้าของบ้านดูจากปัจจัยดังนี้
- จำนวนสมาชิกของบ้าน ควรดูความเหมาะสมของสมาชิกในบ้าน เช่น จำนวนห้องน้ำ จำนวนห้องนอน รวมถึงจำนวนที่จอดรถ เป็นต้น
- อายุของผู้อาศัย ยกตัวอย่างเช่น บ้านสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นควรมีที่จับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือ เป็นบ้านสำหรับเด็ก ฉะนั้นต้องเว้นที่ให้เด็กได้เล่น ได้เติบโตในบ้าน เป็นต้น
7.วางแผนงบประมาณ
งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการสร้างบ้าน ซึ่งควรจัดงบประมาณที่ใช้ให้รัดกุม เพื่อป้องกันปัญหางบบานปลาย โดยควรวางแผนให้รอบครอบ ตั้งแต่ การเลือกวัสดุที่สร้างบ้าน ไปถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน แต่ยังไงก็ตามควรแบ่งงบประมาณเผื่อไว้ 20-30% เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ตัวอย่างการวางแผนงบประมาณแบบประหยัด
- เลือกอุปกรณ์ก่อสร้างให้เหมาะสม เลือก ร้านขายวัสดุก่อสร้าง เช็คราคาสินค้าที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไป
- เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับงบประมาณ เช่น ใช้ไม้ทั่วไปแทนที่ใช้ไม้สัก หรือใช้ปูนเปลือยเพื่อเสริมสไตล์ลอฟท์ เป็นต้น
- ลดการตกแต่งของเครื่องใช้ เน้นแต่ใช้ของจำเป็น ตัดออกที่ไม่จำเป็นออก
สรุป
สร้างบ้าน มีสิ่งที่ควรรู้ก่อนลงมือก่อสร้าง ทั้งในเรื่องสถาปัตยกรรมและฮวงจุ้ย ตั้งแต่ การสำรวจทำเลที่เหมาะสม ไม่อยู่ในพื้นที่ที่อันตราย เลือกทิศทางแดด ไม่ให้บ้านร้อนเกินไป จัดวางตำแหน่งของแต่ละห้องให้เหมาะสมตามฮวงจุ้ย ไปจนถึงระบบสาธารณูปโภค เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจสร้างบ้านให้สวยงามตามที่ตั้งใจ
สำหรับใครที่มีแพลนอยาก สร้างบ้าน นอกจากทั้ง 7 เรื่องที่ควรรู้แล้ว อย่ามองหา ร้านวัสดุก่อสร้าง ที่ขายของมีคุณภาพ ราคาถูก ราคาโรงงาน ต้องร้าน UDWASSADU ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ที่มีวัสดุก่อสร้างหลากหลายประเภท ตั้งแต่ สังกะสีแผ่นเรียบ กริลแอร์ ไปจนถึงเบรคเกอร์ ครบจบในที่เดียว ที่สำคัญหากต้องการปรึกษาก่อนการซื้อก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line ID : @udirons หรือ โทร : 084-326-6454 เรียกได้ว่าทั้งคุ้มค่าและสะดวกสบายเลย