ท่อ PPR PN 10 เป็นท่อสำหรับระบบประปาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนท่อ PVC ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับกับการใช้งานระบบประปาในครัวเรือนได้อย่างเต็มรูปแบบ ทนแรงดันที่สูง และมีโอกาสรั่วซึมที่น้อยจากวิธีการติดตั้งท่อแบบเอกลักษณ์เฉพาะ ส่งผลทำให้มีคุณภาพที่สูงกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็มีรายละเอียดในตัวที่ค่อนข้างมาก จึงไม่แปลกที่อาจมีหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจขอบเขตการใช้งานท่อประเภทดังกล่าว
ท่อ PPR PN 10 ท่อประปาสำหรับน้ำร้อนและน้ำเย็น
ในปัจจุบัน ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) ที่ผลิตออกมาจะมีเพียงรุ่น Economy Class อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นของแบรนด์ไหนก็ตาม ซึ่งจะอิงตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนีเป็นหลัก เนื่องจากท่อ PPR ในตอนนี้ยังไม่มีมาตรฐานมอก. กำกับ จึงใช้มาตรฐานของเยอรมันแทนนั่นเอง โดยจะมีรายละเอียดข้อมูลสเปคของท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) ตามตารางด้านล่าง ดังนี้
– ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) รุ่น Economy Class – | |||||||
ขนาดของท่อ | อัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกท่อต่อความหนาท่อ (SDR) | ชั้นความดัน (PN) | เส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อ (ID) | ความหนาของท่อ | ปริมาตรน้ำ | น้ำหนัก | |
นิ้ว | มิลลิเมตร | ||||||
1/2 นิ้ว | 20 มิลลิเมตร | 9 (2.3 มิลลิเมตร) | 12.5 บาร์ | 15.4 มิลลิเมตร | 2.3 มิลลิเมตร | 0.186 ลิตรต่อเมตร | 0.115 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
3/4 นิ้ว | 25 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 20.4 มิลลิเมตร | 2.3 มิลลิเมตร | 0.327 ลิตรต่อเมตร | 0.164 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
1 นิ้ว | 32 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 26.2 มิลลิเมตร | 2.9 มิลลิเมตร | 0.539 ลิตรต่อเมตร | 0.267 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
1-1/4 นิ้ว | 40 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 32.6 มิลลิเมตร | 3.7 มิลลิเมตร | 0.835 ลิตรต่อเมตร | 0.412 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
1-1/2 นิ้ว | 50 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 40.8 มิลลิเมตร | 4.6 มิลลิเมตร | 1.308 ลิตรต่อเมตร | 0.638 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
2 นิ้ว | 63 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 51.4 มิลลิเมตร | 5.8 มิลลิเมตร | 2.076 ลิตรต่อเมตร | 1.010 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
2-1/2 นิ้ว | 75 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 61.4 มิลลิเมตร | 6.8 มิลลิเมตร | 2.962 ลิตรต่อเมตร | 1.420 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
3 นิ้ว | 90 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 73.6 มิลลิเมตร | 8.2 มิลลิเมตร | 4.256 ลิตรต่อเมตร | 2.030 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
4 นิ้ว | 110 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 90.0 มิลลิเมตร | 10.0 มิลลิเมตร | 6.364 ลิตรต่อเมตร | 3.010 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
5 นิ้ว | 125 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 102.2 มิลลิเมตร | 11.4 มิลลิเมตร | 8.207 ลิตรต่อเมตร | 3.826 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
6 นิ้ว | 160 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 130.8 มิลลิเมตร | 14.6 มิลลิเมตร | 13.443 ลิตรต่อเมตร | 6.401 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
8 นิ้ว | 200 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 163.6 มิลลิเมตร | 18.2 มิลลิเมตร | 21.030 ลิตรต่อเมตร | 9.979 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
10 นิ้ว | 250 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 204.6 มิลลิเมตร | 22.7 มิลลิเมตร | 32.891 ลิตรต่อเมตร | 15.500 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
12 นิ้ว | 315 มิลลิเมตร | 11 (1.9 มิลลิเมตร) | 10 บาร์ | 257.8 มิลลิเมตร | 28.6 มิลลิเมตร | 52.219 ลิตรต่อเมตร | 24.600 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร |
คุณสมบัติที่โดดเด่นของท่อ PPR PN 10
- ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) เป็นท่อ PPR ที่เหมาะสำหรับงานท่อประปาภายในครัวเรือน ท่อน้ำดี รวมไปถึงการใช้งานในฐานะท่อน้ำอุ่นหรือท่อน้ำเย็น และระบบ Chilled Water สำหรับทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อนต่าง ๆ
- มีความทนทานต่ออุณหภูมิอยู่ตั้งแต่ 3 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 60 องศาเซลเซียส
- สำหรับท่อ PPR รุ่น Economy Class ขนาด 1/2 นิ้ว หรือ 20 มิลลิเมตร จะมีการเพิ่มความหนาของตัวท่อให้มากขึ้นจากเดิม 1.9 มิลลิเมตร (SDR 11) ไปเป็น 2.3 มิลลิเมตร (SDR 9) เพื่อป้องกันปัญหาในการเชื่อมด้วยความร้อนจนเกิดอาการอุดตัน หรือฉีกขาดของตัวท่อ จึงทำให้สามารถทนแรงดันสูงขึ้นจากเดิมที่เป็น 10 บาร์ ไปเป็น 12.5 บาร์ได้
- ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) มีความยาวมาตรฐานของท่ออยู่ที่ 4 เมตรเป็นหลัก
- ได้รับมาตรฐานคุณภาพสินค้า DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนี
- ได้รับมาตรฐานความสะอาด BS 6920 Part II จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI)
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแรงดัน และอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ผ่านตัวท่อว่ามากน้อยแค่ไหน
ราคา ท่อ PPR PN 10 อัพเดทล่าสุด ปี 2024
– ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) รุ่น Economy Class (THAI PPR) – | |||
ขนาดของท่อ | ความยาวต่อเส้น | ราคา | |
นิ้ว | มิลลิเมตร | ||
1/2 นิ้ว | 20 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 140 บาท |
3/4 นิ้ว | 25 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 184 บาท |
1 นิ้ว | 32 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 304 บาท |
1-1/4 นิ้ว | 40 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 425 บาท |
1-1/2 นิ้ว | 50 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 720 บาท |
2 นิ้ว | 63 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 1,148 บาท |
2-1/2 นิ้ว | 75 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 1,608 บาท |
3 นิ้ว | 90 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 2,248 บาท |
4 นิ้ว | 110 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 3,336 บาท |
5 นิ้ว | 125 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 5,268 บาท |
6 นิ้ว | 160 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 9,800 บาท |
8 นิ้ว | 200 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 18,456 บาท |
10 นิ้ว | 250 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 23,388 บาท |
12 นิ้ว | 315 มิลลิเมตร | 4 เมตร | 40,800 บาท |
ซึ่งราคาดังกล่าว เป็นเพียงราคาตั้งต้นของสินค้าเพียงเท่านั้น และทั้งนี้ ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษจากทางร้าน UDWASSADU เข้าไป หากสนใจ สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามทางร้านเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อท่อ PPR PN 10
1.ระบุขนาดและประเภทให้ดีก่อนที่จะซื้อ
การเลือกซื้อท่อ PPR ไปใช้งาน ควรที่จะรู้ก่อนว่างานระบบประปาที่เราต้องการนำท่อ PPR ไปใช้งานนั้น จำเป็นจะต้องใช้งานท่อ PPR ที่ทนความดันได้มากน้อยขนาดไหน (ในที่นี้หมายถึงว่า เป็นท่อ PPR PN 10 หรือ ท่อ PPR PN 20) รวมไปถึงขนาดของท่อที่จะนำไปใช้งาน เพื่อไม่ให้ซื้อไปผิดแบบที่ต้องใช้งาน จนเป็นการสูญเงินไปเสียเปล่า ๆ
2.สังเกตตัวท่อให้ถี่ถ้วน
บนด้านนอกของตัวท่อ PPR จะมีการระบุรายละเอียดต่าง ๆ คร่าว ๆ ที่ควรรู้ของตัวท่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของการให้ความร้อนเพื่อการเชื่อม ขนาดของท่อ มาตรฐานการผลิต และการทนความดันของท่อตัวนั้น ๆ โดยข้อมูลส่วนนี้จะเขียนไว้บนท่อทุกเส้น เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดในการนำไปใช้งาน ซึ่งหากเลือนหายไปก็ไม่ควรที่จะซื้อมาเช่นกัน
3.เน้นคุณภาพของสินค้า
การซื้อท่อ PPR ควรจะเลือกซื้อท่อที่สัญลักษณ์รับรองความปลอดภัยที่ชัดเจน ไม่ควรเลือกซื้อท่อที่แม้จะมีราคาถูกกว่า แต่ไม่มีเครื่องหมายรับรองบนตัวท่อ เพราะว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการใช้งานขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ใช้งานได้ไม่คงทน กระบวนการผลิตไม่มีคุณภาพ เสี่ยงต่อสารปนเปื้อน ดังนั้นแล้ว ไม่ควรเห็นแก่ของราคาถูกเกินไป จนเกิดกลายเป็นปัญหาหลังจากนำท่อที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้งาน
4.การบริการหลังการขายที่มีความใสใจ
ในกรณีที่ซื้อท่อผ่านตัวแทนจำหน่ายมาใช้งาน ก็ควรที่จะเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ที่มีบริการหลังการขายที่ดีด้วยเช่นกัน เพราะว่าหากสินค้าท่อ PPR ที่ซื้อมานั้นมีปัญหา ก็จะได้สามารถทำเรื่องเปลี่ยนตัวท่อที่มีปัญหานั้น ๆ ได้ รวมไปถึงหากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้งานท่อ PPR เอง ก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายภายหลังได้ด้วยเช่นกัน
5.ให้ความสำคัญกับความสะดวกหลังการติดตั้ง
ในการเลือกซื้อท่อ PPR มาใช้งาน ก็ควรที่จะเลือกซื้อท่อ PPR ที่สามารถต่อกับข้อต่อได้หลาย ๆ ชนิด เพื่อจะได้สะดวกต่อการใช้งานในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงกับการใช้งานท่อชนิดอื่น ๆ ในภายหลัง ซึ่งหากไม่มั่นใจว่าท่อ PPR ที่ซื้อมาสามารถทำเช่นนั้นได้หรือไม่ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลดังกล่าวได้จากตัวแทนจำหน่ายที่เลือกซื้ออยู่
สรุป
จะเห็นได้ว่า ท่อ PPR PN 10 เป็นท่อ PPR ที่เหมาะแก่การใช้งานกับระบบประปาแบบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นภายในครัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 3 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 60 องศาเซลเซียส ตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนี ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50 ปี เรียกได้ว่า เปลี่ยนเพียงครั้งเดียว ก็ลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบประปาต่าง ๆ ภายในบ้านไปอีกยาวนาน
หากใครที่กำลังมองหาท่อ PPR (80) PN 10 มาใช้งานอยู่ล่ะก็ UDWASSADU ก็มีสินค้าพร้อมจำหน่ายในทุกขนาด ตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 จากประเทศเยอรมนี เพราะเราคือร้านวัสดุก่อสร้างที่เชี่ยวชาญในเรื่องของงานระบบปรับอากาศ ไฟฟ้า และสุขาภิบาลมากว่า 25 ปี ด้วยสินค้าแบรนด์ชั้นนำที่มีประสิทธิภาพและราคาที่เหมาะสม รองรับมาตรฐานสากล พร้อมทั้งบริการซื้อขายออนไลน์ที่ครบครัน สะดวก และรวดเร็วตรงเวลาให้แก่ผู้ซื้อทุกท่านอย่างแน่นอน
REF
https://www.facebook.com/589273407764964/posts/1243857825639849/
https://udwassadu.com/product/ppr-80-sdr-11-PN 10-economy/