ราคา ท่อ PPR PN 10 สำหรับท่อน้ำร้อนและน้ำเย็น อัพเดท 2024

ท่อ PPR PN 10

ท่อ PPR PN 10 เป็นท่อสำหรับระบบประปาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนท่อ PVC ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับกับการใช้งานระบบประปาในครัวเรือนได้อย่างเต็มรูปแบบ ทนแรงดันที่สูง และมีโอกาสรั่วซึมที่น้อยจากวิธีการติดตั้งท่อแบบเอกลักษณ์เฉพาะ ส่งผลทำให้มีคุณภาพที่สูงกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็มีรายละเอียดในตัวที่ค่อนข้างมาก จึงไม่แปลกที่อาจมีหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจขอบเขตการใช้งานท่อประเภทดังกล่าว

 ท่อ PPR PN 10

ท่อ PPR PN 10 ท่อประปาสำหรับน้ำร้อนและน้ำเย็น

ในปัจจุบัน ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) ที่ผลิตออกมาจะมีเพียงรุ่น Economy Class อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นของแบรนด์ไหนก็ตาม ซึ่งจะอิงตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนีเป็นหลัก เนื่องจากท่อ PPR ในตอนนี้ยังไม่มีมาตรฐานมอก. กำกับ จึงใช้มาตรฐานของเยอรมันแทนนั่นเอง โดยจะมีรายละเอียดข้อมูลสเปคของท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) ตามตารางด้านล่าง ดังนี้

– ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) รุ่น Economy Class –
ขนาดของท่อ อัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกท่อต่อความหนาท่อ (SDR) ชั้นความดัน (PN) เส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อ (ID) ความหนาของท่อ ปริมาตรน้ำ น้ำหนัก
นิ้ว มิลลิเมตร
1/2 นิ้ว 20 มิลลิเมตร 9 (2.3 มิลลิเมตร) 12.5 บาร์ 15.4 มิลลิเมตร 2.3 มิลลิเมตร 0.186 ลิตรต่อเมตร 0.115 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3/4 นิ้ว 25 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 20.4 มิลลิเมตร 2.3 มิลลิเมตร 0.327 ลิตรต่อเมตร 0.164 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
1 นิ้ว 32 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 26.2 มิลลิเมตร 2.9 มิลลิเมตร 0.539 ลิตรต่อเมตร 0.267 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
1-1/4 นิ้ว 40 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 32.6 มิลลิเมตร 3.7 มิลลิเมตร 0.835 ลิตรต่อเมตร 0.412 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
1-1/2 นิ้ว 50 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 40.8 มิลลิเมตร 4.6 มิลลิเมตร 1.308 ลิตรต่อเมตร 0.638 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2 นิ้ว 63 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 51.4 มิลลิเมตร 5.8 มิลลิเมตร 2.076 ลิตรต่อเมตร 1.010 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2-1/2 นิ้ว 75 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 61.4 มิลลิเมตร 6.8 มิลลิเมตร 2.962 ลิตรต่อเมตร 1.420 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3 นิ้ว 90 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 73.6 มิลลิเมตร 8.2 มิลลิเมตร 4.256 ลิตรต่อเมตร 2.030 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4 นิ้ว 110 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 90.0 มิลลิเมตร 10.0 มิลลิเมตร 6.364 ลิตรต่อเมตร 3.010 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5 นิ้ว 125 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 102.2 มิลลิเมตร 11.4 มิลลิเมตร 8.207 ลิตรต่อเมตร 3.826 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
6 นิ้ว 160 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 130.8 มิลลิเมตร 14.6 มิลลิเมตร 13.443 ลิตรต่อเมตร 6.401 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
8 นิ้ว 200 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 163.6 มิลลิเมตร 18.2 มิลลิเมตร 21.030 ลิตรต่อเมตร 9.979 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
10 นิ้ว 250 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 204.6 มิลลิเมตร 22.7 มิลลิเมตร 32.891 ลิตรต่อเมตร 15.500 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
12 นิ้ว 315 มิลลิเมตร 11 (1.9 มิลลิเมตร) 10 บาร์ 257.8 มิลลิเมตร 28.6 มิลลิเมตร 52.219 ลิตรต่อเมตร 24.600 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

คุณสมบัติที่โดดเด่นของท่อ PPR PN 10

  • ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) เป็นท่อ PPR ที่เหมาะสำหรับงานท่อประปาภายในครัวเรือน ท่อน้ำดี รวมไปถึงการใช้งานในฐานะท่อน้ำอุ่นหรือท่อน้ำเย็น และระบบ Chilled Water สำหรับทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อนต่าง ๆ
  • มีความทนทานต่ออุณหภูมิอยู่ตั้งแต่ 3 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 60 องศาเซลเซียส
  • สำหรับท่อ PPR รุ่น Economy Class ขนาด 1/2 นิ้ว หรือ 20 มิลลิเมตร จะมีการเพิ่มความหนาของตัวท่อให้มากขึ้นจากเดิม 1.9 มิลลิเมตร (SDR 11) ไปเป็น 2.3 มิลลิเมตร (SDR 9) เพื่อป้องกันปัญหาในการเชื่อมด้วยความร้อนจนเกิดอาการอุดตัน หรือฉีกขาดของตัวท่อ จึงทำให้สามารถทนแรงดันสูงขึ้นจากเดิมที่เป็น 10 บาร์ ไปเป็น 12.5 บาร์ได้
  • ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) มีความยาวมาตรฐานของท่ออยู่ที่ 4 เมตรเป็นหลัก
  • ได้รับมาตรฐานคุณภาพสินค้า DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนี
  • ได้รับมาตรฐานความสะอาด BS 6920 Part II จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI)
  • มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแรงดัน และอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ผ่านตัวท่อว่ามากน้อยแค่ไหน

ท่อ PPR PN 10

ราคา ท่อ PPR PN 10 อัพเดทล่าสุด ปี 2024

– ท่อ PPR (80) แบบ SDR 11 (PN 10) รุ่น Economy Class (THAI PPR) –
ขนาดของท่อ ความยาวต่อเส้น ราคา
นิ้ว มิลลิเมตร
1/2 นิ้ว 20 มิลลิเมตร 4 เมตร 140 บาท
3/4 นิ้ว 25 มิลลิเมตร 4 เมตร 184 บาท
1 นิ้ว 32 มิลลิเมตร 4 เมตร 304 บาท
1-1/4 นิ้ว 40 มิลลิเมตร 4 เมตร 425 บาท
1-1/2 นิ้ว 50 มิลลิเมตร 4 เมตร 720 บาท
2 นิ้ว 63 มิลลิเมตร 4 เมตร 1,148 บาท
2-1/2 นิ้ว 75 มิลลิเมตร 4 เมตร 1,608 บาท
3 นิ้ว 90 มิลลิเมตร 4 เมตร 2,248 บาท
4 นิ้ว 110 มิลลิเมตร 4 เมตร 3,336 บาท
5 นิ้ว 125 มิลลิเมตร 4 เมตร 5,268 บาท
6 นิ้ว 160 มิลลิเมตร 4 เมตร 9,800 บาท
8 นิ้ว 200 มิลลิเมตร 4 เมตร 18,456 บาท
10 นิ้ว 250 มิลลิเมตร 4 เมตร 23,388 บาท
12 นิ้ว 315 มิลลิเมตร 4 เมตร 40,800 บาท

ซึ่งราคาดังกล่าว เป็นเพียงราคาตั้งต้นของสินค้าเพียงเท่านั้น และทั้งนี้ ยังไม่รวมส่วนลดพิเศษจากทางร้าน UDWASSADU เข้าไป หากสนใจ สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามทางร้านเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้เช่นกัน

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อท่อ PPR PN 10

ท่อน้ำ

1.ระบุขนาดและประเภทให้ดีก่อนที่จะซื้อ

การเลือกซื้อท่อ PPR ไปใช้งาน ควรที่จะรู้ก่อนว่างานระบบประปาที่เราต้องการนำท่อ PPR ไปใช้งานนั้น จำเป็นจะต้องใช้งานท่อ PPR ที่ทนความดันได้มากน้อยขนาดไหน (ในที่นี้หมายถึงว่า เป็นท่อ PPR PN 10 หรือ ท่อ PPR PN 20) รวมไปถึงขนาดของท่อที่จะนำไปใช้งาน เพื่อไม่ให้ซื้อไปผิดแบบที่ต้องใช้งาน จนเป็นการสูญเงินไปเสียเปล่า ๆ

2.สังเกตตัวท่อให้ถี่ถ้วน

บนด้านนอกของตัวท่อ PPR จะมีการระบุรายละเอียดต่าง ๆ คร่าว ๆ ที่ควรรู้ของตัวท่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของการให้ความร้อนเพื่อการเชื่อม ขนาดของท่อ มาตรฐานการผลิต และการทนความดันของท่อตัวนั้น ๆ โดยข้อมูลส่วนนี้จะเขียนไว้บนท่อทุกเส้น เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดในการนำไปใช้งาน ซึ่งหากเลือนหายไปก็ไม่ควรที่จะซื้อมาเช่นกัน

3.เน้นคุณภาพของสินค้า

การซื้อท่อ PPR ควรจะเลือกซื้อท่อที่สัญลักษณ์รับรองความปลอดภัยที่ชัดเจน ไม่ควรเลือกซื้อท่อที่แม้จะมีราคาถูกกว่า แต่ไม่มีเครื่องหมายรับรองบนตัวท่อ เพราะว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการใช้งานขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ใช้งานได้ไม่คงทน กระบวนการผลิตไม่มีคุณภาพ เสี่ยงต่อสารปนเปื้อน ดังนั้นแล้ว ไม่ควรเห็นแก่ของราคาถูกเกินไป จนเกิดกลายเป็นปัญหาหลังจากนำท่อที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้งาน

4.การบริการหลังการขายที่มีความใสใจ

ในกรณีที่ซื้อท่อผ่านตัวแทนจำหน่ายมาใช้งาน ก็ควรที่จะเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ที่มีบริการหลังการขายที่ดีด้วยเช่นกัน เพราะว่าหากสินค้าท่อ PPR ที่ซื้อมานั้นมีปัญหา ก็จะได้สามารถทำเรื่องเปลี่ยนตัวท่อที่มีปัญหานั้น ๆ ได้ รวมไปถึงหากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้งานท่อ PPR เอง ก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายภายหลังได้ด้วยเช่นกัน 

5.ให้ความสำคัญกับความสะดวกหลังการติดตั้ง

ในการเลือกซื้อท่อ PPR มาใช้งาน ก็ควรที่จะเลือกซื้อท่อ PPR ที่สามารถต่อกับข้อต่อได้หลาย ๆ ชนิด เพื่อจะได้สะดวกต่อการใช้งานในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงกับการใช้งานท่อชนิดอื่น ๆ ในภายหลัง ซึ่งหากไม่มั่นใจว่าท่อ PPR ที่ซื้อมาสามารถทำเช่นนั้นได้หรือไม่ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลดังกล่าวได้จากตัวแทนจำหน่ายที่เลือกซื้ออยู่

ท่อน้ำเย็น

สรุป

จะเห็นได้ว่า ท่อ PPR PN 10 เป็นท่อ PPR ที่เหมาะแก่การใช้งานกับระบบประปาแบบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นภายในครัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 3 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 60 องศาเซลเซียส ตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 ของประเทศเยอรมนี ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50 ปี เรียกได้ว่า เปลี่ยนเพียงครั้งเดียว ก็ลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบประปาต่าง ๆ ภายในบ้านไปอีกยาวนาน

หากใครที่กำลังมองหาท่อ PPR (80) PN 10 มาใช้งานอยู่ล่ะก็ UDWASSADU ก็มีสินค้าพร้อมจำหน่ายในทุกขนาด ตามมาตรฐาน DIN 8077/8078 และ ISO 15874 จากประเทศเยอรมนี เพราะเราคือร้านวัสดุก่อสร้างที่เชี่ยวชาญในเรื่องของงานระบบปรับอากาศ ไฟฟ้า และสุขาภิบาลมากว่า 25 ปี ด้วยสินค้าแบรนด์ชั้นนำที่มีประสิทธิภาพและราคาที่เหมาะสม รองรับมาตรฐานสากล พร้อมทั้งบริการซื้อขายออนไลน์ที่ครบครัน สะดวก และรวดเร็วตรงเวลาให้แก่ผู้ซื้อทุกท่านอย่างแน่นอน

REF

https://www.facebook.com/589273407764964/posts/1243857825639849/

https://udwassadu.com/product/ppr-80-sdr-11-PN 10-economy/