ระบบสุขาภิบาล คืออะไร มีกี่ประเภทและมีอุปกรณ์อะไรบ้าง

ระบบสุขาภิบาล

คุณเคยได้ยินคำว่า “ระบบสุขาภิบาล” หรือไม่ ? เชื่อว่าส่วนมากอาจจะคุ้น ๆ หู กับคำคำนี้ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการออกแบบอาคาร หรือ เกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรม ย่อมมีความเข้าใจถึงความหมายของคำนี้อย่างลึกซึ้ง แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้จักกับคำนี้มาก่อน เราจะขอเกริ่นสั้น ๆ ว่า นี่คือหนึ่งในประเภทของ “งานระบบ” ภายในอาคาร ที่ทุก ๆ อาคารจำเป็นต้องออกแบบวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ที่อาศัยได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด มาดูกันว่ามีเรื่องน่าสนใจอะไรกันบ้างในบทความนี้ 

ระบบสุขาภิบาล

ระบบสุขาภิบาล คืออะไร ? 

ความหมายของ “ระบบสุขาภิบาล” ที่จริงแล้วเรียบง่ายมาก ๆ เพราะนี่คือ “ระบบจัดการน้ำ” เนื่องจากน้ำเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ในทุก ๆ วันมนุษย์มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำเกือบจะตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดื่ม การทำอาหาร การอาบน้ำ การซักล้าง ไปจนถึงการขับถ่าย ซึ่งน้ำที่เราใช้ในแต่ละวันก็จะถูกแบ่งออกมาได้หลายประเภท ระบบสุขาภิบาลจะทำหน้าที่จัดการน้ำแต่ละประเภท ให้ผ่านกระบวนการที่เหมาะสมมากที่สุด เพื่อเป็นการดูแลจัดการให้ใช้น้ำได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และยังกระบวนการที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมโดยตรงอีกด้วย 

ระบบสุขาภิบาล มีอะไรบ้าง

ในหัวข้อเมื่อสักครู่ เราได้กล่าวไปแล้วว่า “ระบบสุขาภิบาลมีอยู่หลายประเภท” เนื่องจากกรรมวิธีจัดการน้ำแต่ละรูปแบบนั้นแตกต่างกันออกไป เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงมีความจำเป็นจะต้องแบ่งระบบสุขาภิบาลตามความเหมาะสม มาดูกันว่าตามอาคารบ้านเรือนของเรา มีระบบสุขาภิบาลมีกี่ประเภทกันบ้าง ?

  • ระบบน้ำประปา หรือ ระบบน้ำดี เป็นการนำเอาน้ำที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ลำเลียงไปยังจุดจ่ายน้ำบริเวณต่าง ๆ ภายในตัวอาคาร
  • ระบบน้ำโสโครก เป็นของเสียจากชักโครก และ โถปัสสาวะ ที่จะต้องได้รับการส่งไปยังถังกักเก็บของเสีย ซึ่งจะผ่านการบำบัดก่อนจะดำเนินการส่งออกไปภายนอกอาคาร
  • ระบบระบายน้ำเสีย หรือ ท่อน้ำทิ้ง เป็นท่อที่ส่งตรงจากซิงค์ล้างหน้า ซิงค์ล้างจาน ไปจนถึงน้ำที่เกิดจากการซักล้างต่าง ๆ ซึ่งจะผ่านกระบวนการบำบัดคนละส่วนกับน้ำโสโครก
  • ระบบระบายน้ำฝน เป็นการวางระบบสำหรับระบายน้ำฝน เพื่อให้ไม่เกิดการสะสมของน้ำฝนในตัวบ้าน ซึ่งอาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้ง่าย และ ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่ายอีกด้วย
  • ระบบระบายอากาศ เป็นการระบายเอาอากาศที่มีกลิ่นเหม็นออกไปในช่องระบายอากาศที่จัดเตรียมเอาไว้ นอกจากจะช่วยลดกลิ่นเหม็นแล้ว ยังป้องกันกลิ่นตีย้อนกลับไปภายในบ้านได้อีกด้วย
  • ระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นเหมือนกับจุดพักน้ำ ซึ่งจะทำการบำบัดให้สิ่งที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำแยกออกจากน้ำให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรก ไขมัน เศษอาหารต่าง ๆ ก่อนที่จะปล่อยน้ำออกไปสู่ภายนอก
  • ระบบระบายน้ำภายนอกอาคาร เป็นระบบระบายน้ำรอบนอกอาคาร เพื่อทำให้น้ำบริเวณอาคารถูกปล่อยออกไปสู่ช่องทางระบายน้ำสาธารณะให้ได้ง่ายที่สุด ป้องกันการเกิดน้ำท่วมขังภายในบริเวณบ้าน

  สุขาภิบาล

อุปกรณ์ในระบบสุขาภิบาลมีอะไรบ้าง?

1.ท่อน้ำ

ท่อน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในระบบนี้ โดยท่อน้ำมีด้วยกันหลากหลายประเภท ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน อาทิ 1.ระบบท่อน้ำเสีย เป็นท่อระบายน้ำจากการใช้งานทั่วไป เช่น อ่างล้างมือ เครื่องซักผ้า  2.ระบบท่อระบายน้ำฝนมีหน้าที่ลำเลียงและระบายน้ำฝนออกจากตัวอาคาร 3.ระบบท่อน้ำโสโครก ระบายน้ำที่มีความสกปรกมากกว่าท่อน้ำเสีย เช่น โถปัสสาวะ ซึ่งควรออกแบบเพื่อป้องกันการอุดตัน และ  4.ระบบท่อน้ำดี ระบบที่ส่งน้ำประปาไปถึงจุดต่างๆของอาคาร โดยต้องมีความดันและอัตราการไหล

ท่อน้ำที่นิยมใช้งานได้แก่ ท่อ PVC กับ ท่อ PPR ซึ่งทั้งสองท่อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้ 

  • ท่อ PVC คือ ท่อที่ทำมาจากเม็ดพลาสติก เป็นท่อที่นิยมใช้ในระบบประปากับระบบการเกษตร โดยท่อ PVC เป็นวัสดุที่มีความทนทาน ขนาดเบา ราคาไม่แพง สามารถใช้ในการลำเลียงน้ำได้ดี เหมาะสำหรับงานประปาทุกชนิด ทนทานสามารถใช้งานในตัวอาคารได้ดี ติดตั้งได้ง่ายเพียงแค่ใช้กาวทาท่อกับอุปกรณ์ข้อต่อเท่านั้น แต่ข้อเสียของท่อ PVC มีดังนี้ ท่อประเภทนี้มีความเปราะบาง หากใช้งานนอกเหนือจากการทำประปาอาจทำให้ท่อแตกได้ นอกจากนี้ท่อ PVC ยังไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ โดยเฉพาะการลำเลียงน้ำร้อน มีความทนทานต่อแสงแดดต่ำ ไม่สามารถใช้งานกลางแจ้งโดยตรง ควรทาสีขาวหรือฝังดินก่อนใช้งาน
  • ท่อ PPR  คือ ท่อที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศเยอรมนี เป็นท่อที่พัฒนาด้วยมาตรฐานใหม่ ซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่ทวีปยุโรปจนมาถึงทวีปเอเชีย โดยท่อ PPR มีข้อดีมากกว่าท่อ PVC ตรงที่สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ เนื่องจากความสามารถที่ทนความร้อนได้ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถเชื่อมกับข้อต่อด้วยความร้อนได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการรั่วซึมตามข้อต่อที่มีมากในท่อ PVC ที่มีปัญหาน้ำซึมเนื่องจากใช้กาวเชื่อมประสานท่อ ทั้งนี้ท่อ PPR เป็นท่อที่เหมาะสำหรับงานระบบอย่าง ระบบประปาน้ำอุ่น ประปาน้ำร้อน นิยมใช้งานประปาภายในอาคาร สามารถเป็นได้ทั้งท่อน้ำร้อน ท่อน้ำอุ่น ท่อสารเคมีในอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ไปจนถึงโรงพยาบาล จุดเด่นของท่อ PPR มีดังนี้ 1.มีความสามารถในการทนทานอุณหภูมิได้สูงถึง 95 องศาเซลเซียล 2.ลดปัญหาการรั่วซึมได้อย่างชัดเจน 3.มีน้ำหนักที่เบา และทนทานต่อสารเคมี 4.มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 50 ปี 5.ผิวภายในมีความเรียบ มีความต้านทานการไหลที่น้อย

ปั๊มน้ำ

2.ปั๊มน้ำ

ปั๊มน้ำ คือ เครื่องมือที่ช่วยในการส่งน้ำ มีหัวปั๊มและมอเตอร์ ทำหน้าที่หมุนให้ตัวปั๊มเคลื่อนที่เพื่อผลักน้ำ จากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มแรงดันน้ำให้มีความเสถียรและแรงสม่ำเสมอในระหว่างการใช้น้ำ อีกทั้งยังสามารถดึงน้ำจากถังพักน้ำออกมาใช้งานได้อีกด้วย

3.วาล์ว

วาล์ว คือ เครื่องมือที่ใช้งานเพื่อควบคุมการไหลของน้ำ ผ่านท่อและท่อส่ง สามารถดำเนินการด้วยการเปิดและปิดด้วยแรงคนหรือแบบอัตโนมัติ โดยวาล์วมีหลายประเภท เช่น วาล์วประตูน้ำ โกลบวาล์ว บอลวาล์ว วาล์วปีกผีเสื้อ วาล์วกันกลับ เป็นต้น

ระบบสุขาภิบาล สำคัญยังไงต่อการออกแบบอาคาร

ผู้ที่รับหน้าที่ในการออกแบบอาคาร จำเป็นที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับระบบสุขาภิบาลอย่างละเอียด เนื่องจากในการวางท่อต่าง ๆ จะต้องมีการคำนวณโดยละเอียด เพราะปลายทางของท่อนั้นจะมีจุดหมายที่แตกต่างกันออกไป หากเป็นท่อน้ำดีก็จะไปบรรจบกับ ฝักบัว ก๊อกน้ำ สายชำระ ต่าง ๆ ส่วนท่อน้ำเสียก็จะต่อตรงกับซิงค์ หรือ บริเวณซักล้าง และ มีท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงของเสียจากการขับถ่าย เพื่อไปทำการบำบัด การวางแผนจัดการระบบท่อต่าง ๆ ให้ดี จะช่วยป้องกันปัญหาบานปลายในภายหลังได้ เนื่องจากปัญหารั่วซึม เป็นปัญหาที่แก้ไขลำบาก และ มีค่าใช้จ่ายที่สูงในการซ่อมแซม จึงจำเป็นจะต้องวางระบบต่าง ๆ ให้แม่นยำที่สุดตั้งแต่การออกแบบนั่นเอง

ระบบสุขาภิบาล

จะรู้ได้อย่างไร ว่าระบบสุขาภิบาลภายในอาคารนั้นมีประสิทธิภาพ

ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้ คุณอาจอยากรู้ว่าระบบสุขาภิบาลภายในอาคารที่คุณอาศัยอยู่ มีประสิทธิภาพที่ดีมากน้อยเพียงใด ซึ่งการตรวจสอบโดยละเอียดอาจจะต้องติดต่อมืออาชีพด้านการตรวจบ้าน แต่สำหรับมือสมัครเล่นเองก็มีวิธีตรวจสอบง่าย ๆ เช่นเดียวกัน เพียงสังเกตจาก 5 ข้อที่เรากำลังกล่าวถึง หากไม่มีปัญหาเลยแม้แต่ข้อเดียว ถือว่าภายในอาคารของคุณ มีระบบสุขาภิบาลอันยอดเยี่ยม

  1. คุณภาพของน้ำต้องดี ใสสะอาด ไหลแรง ไม่ประสบปัญหาติดขัดด้านการใช้งาน
  2. ต้องไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาจากท่อระบายน้ำ ชักโครก ซิงค์ล้างจาน โถปัสสาวะ
  3. สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในอาคารจะต้องใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาอุดตัน ไม่ส่งกลิ่นเหม็น
  4. งานระบบท่อทั้งหมดภายในอาคารจะต้องไม่มีการรั่วซึม และ ไม่มีเสียงรบกวนที่เกิดจากบริเวณท่อต่าง ๆ
  5. จะต้องผ่านการดูแลบำรุงให้อยู่ในสภาพดีที่สุดอยู่เสมอ ตามห้วงการใช้งานที่เหมาะสม

บทส่งท้าย

นี่เป็นเพียงเนื้อหาเกี่ยวกับระบบสุขาภิบาลในบ้าน แบบพอสังเขปเท่านั้น หากจะให้เจาะลึกยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่เราไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ หากคุณอยากให้ระบบสุขาภิบาลภายในบ้านของคุณมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเจอกับปัญหาอันชวนปวดหัว อย่างการรั่วซึม ท่อตัน ส้วมกดไม่ลง มีน้ำขังบริเวณบ้าน เราแนะนำให้คุณเลือกใช้อุปกรณ์ในระบบสุขาภิบาลที่มีคุณภาพดี ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ภายในร้าน UDWASSADU ของเรา ทั้งในส่วนของท่อชนิดต่าง ๆ สุขภัณฑ์ วาล์ว และ ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ำ สนใจอยากซื้อสินค้า สามารถสอบถามราคาสินค้าที่คุณสนใจได้ที่ LINE : @udirons